ชูปลากัดสัตว์น้ำประจำชาติ หวังปั๊มเงินได้ปีละ3พันล้าน

เกษตรฯ ชงปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ สร้างรายได้เข้าประเทศปีละ 3,000 ล้าน

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยในระหว่างเปิดงาน ขับเคลื่อนปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติในงานตลาดเกษตรพรีเมียม ตลาด คลองผดุงกรุงเกษม ในวันที่ 21-25 พ.ย. ว่า กรมเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ  โดยจะเป็นการอนุรักษ์ปลากัดให้อยู่คู่บ้านเมืองไทยอย่างยั่งยืนและขับเคลื่อนการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัด  ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้เข้าประเทศจากปีละ 1,000 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจะเป็นการเลี้ยง เพื่อเล่นกีฬากัดปลา แต่ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนการเลี้ยงปลากัดเป็นการเลี้ยงเพื่อสืบสานและแข่งขันพัฒนาสายพันธุ์ทั้งเพื่อเป็นอาชีพและงานอดิเรก ขณะเดียวกันมีการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์และขยายพันธุ์สู่การค้า สามารถสร้างอาชีพหลักจนนำรายได้เข้าสู่ประเทศจากการส่งออก

อย่างไรก็ตาม แผนการปฏิรูปเกษตรไทยแลนด์ 4.0  มีเป้าหมายพัฒนาขีดความสามารถเกษตรกรไทยให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันปลากัดไทยมีแนวโน้มขยายตัวส่งออกได้ดีขึ้น เพราะเกษตรกรมีศักยภาพการเลี้ยง มีการพัฒนาสายพันธุ์เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับต่างชาติ ดังนั้นจึงเตรียมผลักดันเป็นสัตว์น้ำ ประจำชาติ เนื่องจากมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สังคม พาณิชย์ และแสดงอัตลักษณ์ให้สัตว์น้ำสวยงามไทย ที่มีตำนานมาตั้งแต่กรุงศรี อยุธยารวมระยะเวลากว่า 700 ปี

สำหรับปลากัดเป็นสัตว์น้ำที่กรมประมงมีการต่อยอดพัฒนายกระดับ การผลิตและการตลาดอย่างต่อเนื่องภายใต้ยุทธศาสตร์ปลาสวยงามปี 2556-2560 ซึ่งได้พัฒนาให้มีความหลากหลาย อาทิ ปลากัดสีเดียว ปลากัดหม้อคู่ ปลากัดหางคู่สาว (หางกรรไกร) ปลากัดฮาฟมูนหูช้าง ฮาฟมูนยักษ์ ปลากัดหม้อคราวเทล ปลากัดคราวเทล และปลากัดจีน เป็นต้น

นอกจากนี้ มีการสร้างเครือข่ายเพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มการผลิต การส่งเสริมการขายผ่านระบบออนไลน์ เปิดโอกาสเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ในตลาดที่สำคัญ เช่น จีน สหรัฐ และสิงคโปร์ ทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นทุกปี