posttoday

ขสมก.ชงปรับทีโออาร์ขยายเวลาส่งมอบรถ-จ่ายเงินเร็วขึ้น

14 พฤศจิกายน 2560

ขสมก.ชงปรับทีโออาร์จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ขยายเวลาส่งมอบรถ-จ่ายเงินเร็วขึ้น หวังจูงใจเอกชนประมูลโครงการ

ขสมก.ชงปรับทีโออาร์จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ขยายเวลาส่งมอบรถ-จ่ายเงินเร็วขึ้น หวังจูงใจเอกชนประมูลโครงการ

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่าความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันนั้นภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการจัดซื้อซึ่งมีนางพนิดาทองสุข รักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเป็นประธาน เพื่อหารือถึงข้อสรุปการร่าวเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)นั้น ล่าสุดยังไม่สามารถมีข้อสรุปเรื่องทีโออาร์ฉบับใหม่ เนื่องจากคณะกรรมการคุณธรรม (Integrity Pact: IP) ได้มีความเห็นเพิ่มเติมให้ขสมก.กลับไปจัดทำข้อมูลมาให้รอบคอบเพื่อนำกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งก่อนดำเนินการร่างทีโออาร์ต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะนัดประชุมคณะกรรมการจัดซื้อภายในสัปดาห์นี้เพื่อเร่งรัดโครงการดังกล่าวตามเป้าหมาย ดังนั้นจึงคาดว่าขสมก.จะสามารถเปิดให้เอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอประกวดราคาได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นจะต้องไปดูรายละเอียดของระเบียบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างว่าระบุให้เสนอราคาภายในกี่วัน ทั้งนี้ยืนยันจะดำเนินการให้เร็วที่สุด

นายณัฐชาติกล่าวต่อว่า ขสมก.ได้เสนอแนวทางการปรับปรุงทีโออาร์ใน 2 ประเด็นหลักได้แก่ ประเด็นการส่งมอบรถเมล์ที่อาจจะขยายเวลาให้นานขึ้นจากเดิมกำหนดไว้ที่ 120 วันเพื่อลดข้อกังวลของเอกชนในเรื่องดังกล่าว ควบคู่ไปกับการปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าโครงการ จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าขสมก.จะจ่ายเงินค่าจัดซื้อรถเมล์เมื่อเอกชนส่งมอบรถเมล์ทั้งหมดให้ครบตามจำนวน 489 คัน สำหรับเงื่อนไขใหม่จะเปลี่ยนเป็นรูปแบบการจ่ายเงินให้ทันทีตามจำนวนรถเมล์ที่ส่งมอบกันเป็นล็อตไป แต่จะหักเงินต้นไว้ 30% เพื่อเป็นเงินค่ามัดจำหากเอกชนไม่สามารถส่งมอบรถได้ตามสัญญาก่อนที่จะคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้เมื่อส่งมอบรถแล้วเสร็จทั้ง 489 คัน ตัวอย่างเช่น การส่งมอบรถเมล์ล็อตแรก 100 คัน มูลค่า 300 ล้านบาท ขสมก.จะจ่ายเงินให้เอกชน 210 ล้านบาทและหักมัดจำไว้ 90 ล้านบาท (30%)

สำหรับการผ่อนคลายเงื่อนไขในทีโออาร์ฉบับใหม่ดังกล่าวเชื่อว่าจะเป็นการสร้างความมั่นใจและลดข้อกังวลของเอกชนในการเข้าร่วมประกวดราคาโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันรอบใหม่นี้ เชื่อว่าจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากภาคเอกชนแน่นอน เนื่องจากเป็นสนับสนุนให้เอกชนมีสภาพคล่องที่ดีขึ้นหากสามารถรับมอบเงินค่ารถเมล์ไปได้เลยเมื่อส่งมอบแล้ว

สำหรับโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าซื้อรถ 1,735 ล้านบาท เฉลี่ยคันละ 3.5 ล้านบาท และค่าซ่อมบำรุง 10 ปี รวม 2,286 ล้านบาท เฉลี่ยคันละ 4.67 ล้านบาท