posttoday

ไทยรุกสหรัฐต่อจีเอสพี

13 พฤศจิกายน 2560

ไทยนั่งหัวโต๊ะคุยชาติพันธมิตรผลักดันสหรัฐต่ออายุโครงการจีเอสพีก่อนสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้

ไทยนั่งหัวโต๊ะคุยชาติพันธมิตรผลักดันสหรัฐต่ออายุโครงการจีเอสพีก่อนสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้อัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ในฐานะประธานกลุ่ม GSP Alliance ที่มีประเทศสมาชิกได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) จากสหรัฐ 27 ประเทศ ประชุมหารือในการดำเนินการแสดงเจตนารมณ์เพื่อให้รัฐสภาสหรัฐ ต่ออายุกฎหมายโครงการพิจารณาการให้สิทธิจีเอสพีที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ออกไป ล่าสุดได้รับการรายงานว่าได้มีการประชุมร่วมกันแล้ว 20 ประเทศ และมีมติร่วมกันที่จะผลักดันให้สหรัฐต่ออายุโครงการจีเอสพี และจะร่วมลงนามในหนังสือถึงคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันต่อไป

สำหรับประเด็นที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ได้ประกาศเพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาการให้สิทธิจีเอสพี และจะมีการประเมินผลเป็นรายประเทศในทุก 3 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศที่ได้รับสิทธิมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ โดยในปีแรกจะเริ่มทบทวนประเทศในภูมิภาคเอเชียก่อนเป็นกลุ่มแรก และจะใช้เวลาในแต่ละประเทศประมาณ 1 ปี คาดว่าในขณะนี้มี 2 ประเทศในเอเชียที่ยูเอสทีอาร์ให้ความสนใจ คือ อินเดียและไทย

“ไทยเป็นประเทศที่มีมูลค่าการใช้จีเอสพีสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย โดยปี 2559 ไทยใช้สิทธิมูลค่า 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 70% ของรายการสินค้าที่ได้จีเอสพี ปัจจุบันไทยได้รับสิทธิในสินค้ากว่า 3,400 รายการ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ ถุงมือทำจากยาง จึงต้องผลักดันให้สหรัฐมีการต่ออายุโครงการจีเอสพีที่จะสิ้นสุดในปีนี้ให้ได้” นางนันทวัลย์ กล่าว

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ไทยมีความคืบหน้าในการคุ้มครองสิทธิแรงงานและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นประเด็นที่สหรัฐให้ความสำคัญ และปัจจุบันไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา มีรายได้ประชาชาติระดับปานกลางระดับสูง ยังไม่ได้เป็นประเทศที่มีรายได้ระดับสูง จึงเป็นเหตุผลให้ไทยน่าจะได้ต่ออายุโครงการจีเอสพีออกไปอีก

ทั้งนี้ กลุ่ม GSP Alliance เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของประเทศที่ได้รับสิทธิจีเอสพีจากสหรัฐปัจจุบันมีสมาชิก 27 ประเทศ จาก 120 ประเทศ ที่ได้รับสิทธิสมาชิกการพบปะเพื่อร่วมมือกันให้ได้รับการต่ออายุสิทธิประโยชน์

ภาพ เอเอฟพี