posttoday

พณ.เตือนอย่าขึ้นราคาสินค้าช่วง"ช้อปช่วยชาติ"

11 พฤศจิกายน 2560

พาณิชย์ปรามการปรับราคาสินค้าขึ้นช่วงช็อปช่วยชาติเอาเปรียบผู้บริโภค ขู่ลงโทษตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

พาณิชย์ปรามการปรับราคาสินค้าขึ้นช่วงช็อปช่วยชาติเอาเปรียบผู้บริโภค ขู่ลงโทษตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

​นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆว่ามีผู้ประกอบการค้าปลีกบางรายฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายสินค้าบางชนิดเพิ่มสูงขึ้น เพื่อจำหน่ายในช่วงเวลาที่รัฐบาลมีมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือ โครงการ “ช้อปช่วยชาติ” ระหว่างวันที่ 11 พ.ย.– 3 ธ.ค. 2560 รวม 23 วัน ซึ่งเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคนั้น ​สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ กรมการค้าภายใน จึงขอชี้แจงว่า หากผู้ประกอบการค้าปลีกปรับราคาจำหน่ายสินค้าเพิ่มสูงขึ้นเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ตามโครงการ“ช้อปช่วยชาติ”ที่ต้องการให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมาหักลดหย่อนภาษีได้จำนวนไม่เกิน 15,000 บาท เพื่อให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และไม่เป็นไปตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้มอบให้กรมการค้าภายในจัดงานลดราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครั้งใหญ่ในห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ ในช่วงระยะเวลาของโครงการ “ช้อปช่วยชาติ” ด้วย และอาจเป็นการฉวยโอกาสปรับราคาจำหน่ายสินค้าสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

​อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ และผู้ประกอบการค้าปลีก จำหน่ายสินค้าและบริการในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม และห้ามมิให้มีการ   ฉวยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ทั้งนี้ จะได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข่าวดังกล่าว และจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ราคาจำหน่ายสินค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นประจำ ทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีโครงการ “ช้อปช่วยชาติ” หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด และหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน   กรมการค้าภายใน 1569 และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ