posttoday

'สมคิด' เร่งโครงการระบบราง 7.64 แสนล.

03 พฤศจิกายน 2560

'สมคิด' สั่งเร่งโครงการระบบราง 7.64 แสนล้าน ทยอยเปิดประมูลปีหน้า ขืดเส้นตอกเสาเข็มรถไฟไทย-จีนภายในปีนี้ พร้อมสั่งรฟม.ศึกษาพีพีพีแทรมโคราช-ขอนแก่น 4.7 หมื่นล้านบาท

'สมคิด' สั่งเร่งโครงการระบบราง 7.64 แสนล้าน ทยอยเปิดประมูลปีหน้า ขืดเส้นตอกเสาเข็มรถไฟไทย-จีนภายในปีนี้ พร้อมสั่งรฟม.ศึกษาพีพีพีแทรมโคราช-ขอนแก่น 4.7 หมื่นล้านบาท

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้สั่งการให้รฟม.เร่งดำเนินโครงการแผนแม่บทรถไฟฟ้าที่เหลืออยู่ให้เป็นไปตามเป้าหมายโดยเฉพาะ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 101,112 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลศึกษาเรื่องการให้เอกชนร่วมทุนควบคู่ไปกับการจัดทำเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร วงเงิน 123,000 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลการร่วมทุนพีพีพี โดยได้ขีดเส้นฝห้รฟม.เปิดประมูลและลงนามสัญญาภายในปี 2561

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าภูมิภาคนำร่องสองเส้นทางได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าแทรมจังหวัดเชียงใหม่ระยะทางรวม 35 กิโลเมตร(กม.) วงเงินลงทุน 106,895 ล้านบาทและ โครงการรถไฟฟ้าแทรม จังหวัดภูเก็ตช่วงท่านุ่น-ท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลองวงเงิน ระยะทาง 60 กม. วงเงิน 39,400 ล้านบาท นั้นได้สั่งการให้รฟม.เร่งดำเนินการศึกษาออกแบบและดูแนวทางการร่วมทุนพีพีพีให้ได้ข้อสรุปภายในปีหน้าเพื่อเปิดประมูลโครงการต่อไป นอกจากนี้ยังได้ฝากให้รฟม.ไปศึกษาแนวทางการร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าในจังหวัดทีมีศักยภาพ อาทิโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดขอนแก่นวงเงิน 15,000 ล้านบาทและโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจังหวัดนครราชสีมาวงเงิน 32,600 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รฟท.ไปเร่งดำเนินการโครงการรถไฟไทย-จีน หรือรุไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-นครราชสีมา 179,000 ล้านบาทโดยเฉพาะการเร่งตอกเสาเข็มช่วง 3.5 กิโลเมตรแรกภายในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อนำความคืบหน้าโครงการไปชี้แจงต่อผู้บริหารประเทศจีนในการประชุมโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีนในครั้งหน้า สำหรับโครงการที่ฝากไว้เร่งด่วนอีกหนึ่งเริ่อวคือ โครงการรถไฟความเร็วสูงอีอีซีเชื่อมสามสนามบิน วงเงิน 215,000 ล้านบาทโดยตั้งเป้าให้รฟท.เร่งออกเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ให้เสร็จภายในปีนี้ก่อนเริ่มเปิดประมูลและลงนามสัญญาในปี 2561 ขณะที่ความคืบหน้าโครงการถไฟเชื่อมสามท่าเรืออีอีซีนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่ คาดว่าจะมีการลงทุนไม่ถึง 1,000 ล้านบาทเพราะเป็นเส้นทางที่มีรางอยู่แล้ว เหลือแต่เพียงก่อสร้างรางต่อขยายเข้าไปในท่าเรือซึ่งจะใช้งบประมาณราว 300 ล้านบาทต่อแห่ง นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรีได้ขอให้หน่วยงานในกระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับเป้าเบิกจ่ายงบประมาณปี 2561 โดยให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ 75% ภายใน ไตรมาสที่สองของปีงบหรือภายในเดือนมี.ค. 2561 จากเดิมที่มีแผนทยอยเบิกจ่ายไตรมาสละ 25% ของงบประมาณทั้งหมด