posttoday

ไออาร์ทีวีคว้างานสุวรรณภูมิ

31 ตุลาคม 2560

บอร์ด ทอท.เลือกกิจการร่วมค้าไออาร์ทีวี พัฒนาโครงการเอพีเอ็ม สุวรรณภูมิเฟส 2 ขณะที่ไอทีดีชวดงานเหตุเสนอราคาสูง

บอร์ด ทอท.เลือกกิจการร่วมค้าไออาร์ทีวี พัฒนาโครงการเอพีเอ็ม สุวรรณภูมิเฟส 2 ขณะที่ไอทีดีชวดงานเหตุเสนอราคาสูง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. มีมติเห็นชอบผลการประมูลงานซื้อพร้อมติดตั้งงานระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Move) หรือเอพีเอ็ม โดยผู้ชนะโครงการ ได้แก่ กิจการร่วมค้า ไออาร์ทีวี ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอม มิวนิเคชั่น บริษัท ไทยอิงเกอร์ เทคโนโลยี บริษัท เรืองณรงค์ และบริษัท วิวเท็กซ์ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นเงิน 2,999 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สูงกว่าราคากลาง 3.62% ขณะที่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือไอทีดี นั้น เสนอราคามากกว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากลงนามสัญญาจะมีระยะเวลาดำเนินงาน 870 วัน แล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2563 และจะสามารถเปิดให้บริการผู้โดยสารได้สอดคล้องกับแผนที่กำหนดไว้ โดย ทอท.ได้พิจารณาความเสี่ยงหากมีการจัดซื้อใหม่จะต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการและจะส่งผล กระทบต่อความล่าช้าออกไปอีก 7 เดือนกว่า จะเปิดประมูลใหม่ได้ทำให้โครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 ทั้งหมดต้องเลื่อนออกไปเปิดให้บริการในปลายปี 2563 ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบถอดแบบประมาณราคาก่อสร้าง แล้วพบว่าราคาที่สูงขึ้นนั้นมีความสมเหตุสมผลสอดคล้องกับราคาวัตถุดิบของตลาดโลกจึงตัดสินใจเดินหน้าโครงการ

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการสื่อโฆษณา ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ตและท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบด้วย บริษัท คิว แอดเวอร์ไทซิ่ง ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการ สื่อโฆษณา ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต มีอายุสัญญา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ ทอท.กำหนด ให้เริ่มประกอบกิจการ โดยเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนในอัตราคงที่ ปีแรกเดือนละ 6 ล้านบาท และปรับการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป ในอัตราร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า

ด้านเอกชนที่ได้รับคัดเลือกอีกราย ได้แก่ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกอบกิจการสื่อโฆษณาภายในอาคาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีอายุสัญญา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ ทอท.กำหนดให้เริ่มประกอบกิจการ ซึ่งเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนปีแรกเดือนละ 8 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และ ทอท.จะปรับการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป ในอัตราร้อยละ 10 จากปีก่อนหน้า

นายนิตินัย กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ สุวรรณภูมิเฟส 2 ว่า ขณะนี้งานขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (อีสวิงต์) วงเงิน 7,000 ล้านบาท ยังอยู่ระหว่างจัดทำเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) คาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนและเปิดประมูลโครงการได้ภายใน ธ.ค.นี้ และก่อสร้างต่อไปตามกรอบเวลาเปิดให้บริการช่วงต้นปี 2563 ขณะที่งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น ทอท.จะเปิดประกวดราคาแบบก่อสร้างวงเงิน 309 ล้านบาท ในวันที่ 6 พ.ย.นี้

สำหรับสถานการณ์ผู้โดยสารที่มาใช้บริการสนามบิน มีอัตราการเติบโต 12% โดยเฉพาะผู้โดยสารต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่องส่งผลโดยตรงต่อผลประกอบการ ทอท. เนื่องจากอัตราราคาค่าบริการผู้โดยสารต่อหัว (PSC) ของชาวต่างประเทศสูงกว่าชาวไทยถึง 7 เท่า หรืออยู่ที่คนละ 700 บาท ขณะที่ผลประกอบการในปีที่ผ่านมายังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องตามปริมาณผู้โดยสารที่เติบโตราว 7% โดย ทอท.จะแจ้งผลประกอบการแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้