posttoday

รถไฟจัดตั้งบริษัทลูก บริหารที่ดินล้างหนี้

12 ตุลาคม 2560

รฟท.พร้อมเปิดประมูลที่ดินเฉียด3แสนล้านบาท ตั้งเป้ากวาดรายได้ปีละ 2 หมื่นล้านรวม 6 แสนล้านตลอด 30 ปี

รฟท.พร้อมเปิดประมูลที่ดินเฉียด3แสนล้านบาท ตั้งเป้ากวาดรายได้ปีละ 2 หมื่นล้านรวม 6 แสนล้านตลอด 30 ปี

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้มีมติเห็นชอบให้รฟท.ดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกด้านบริหารทรัพย์สินเพื่อดำเนินการหารายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยหลังจากนี้รฟท.จะเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการสร้างรายได้และโครงสร้างบุคลากรเข้าสู่ที่ประชุมอนุคนร.ในเดือนพย.ก่อนเสนอแนวทางจัดตั้งบริษัทเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในปลายปีนี้ เพื่อก่อตั้งบริษัทภายในไตรมาสแรกของปี 2561 ตามเป้าหมายของกระทรวงคมนาคม

สำหรับแปลงที่ดินเบื้องต้นที่รฟท.จะผลักดันนั้นเป็น โครงการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ 3 แปลงสำคัญ มูลค่ารวมกัน 2.9 แสนล้านบาท ประกอบด้วย พื้นที่กิโลเมตร 11 (กม.11) ด้านหลัง ปตท. สำนักงานใหญ่ ขนาด 350 ไร่ วงเงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ที่ดินแม่น้ำ ขนาด 277 ไร่ วงเงินลงทุนประมาณ 180,000 ล้านบาท โครงการพัฒนาที่ดินบางซื่อแปลงเอ ขนาด 32 ไร่ มูลค่าราว 10,000 ล้านบาท โดยจะมีบางโครงการเริ่มเปิดประมูลก่อนได้เลยกลางปีและทยอยเปิดประมูลให้ครบภายในปี 2561

"เมื่อดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกและสรรหาบุคลากรแล้ว รฟท.จะเร่งเปิดประมูลที่ดินแปลงแรกในช่วงกลางปีหน้าก่อนทยอยเปิดประมูลให้ครบ ส่วนจะเป็นแปลงไหนก่อนนั้นยังบอกไม่ได้"นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรฟท.มีที่ดินอยู่ราว 3.8 หมื่นไร่ ส่งผลให้คาดการณ์รายได้ไว้เบื้องต้นในระยะ 30 ปีแรกนั้นอยู่ที่ 600,000 ล้านบาทหรือเฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วยการเปิดประมูลพื้นที่แปลงใหม่ และการต่อสัญญาพื้นที่แปลงเก่าที่จะปล่อยเช่าในระยะเวลา 30 ปีออกไปซึ่งมีทั้งพื้นที่ทำเลทองในเขตเมือง พื้นที่ห้างสรรพสินค้าตลอดจนที่ตั้งโรงแรมขนาดใหญ่ รวมมูลค่ารายได้นับแสนล้านบาท

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า สำหรับที่ดินแปลง กม.11 อยู่ระหว่างเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ต่อไป สำหรับแปลงที่ดินแม่น้ำขณะนี้การรถไฟฯ อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลการปรับราคาค่าตอบแทนที่ดินให้เพิ่มขึ้นจากเดิม 30%ของมูลค่าพื้นที่เป็น 40%-50% ของมูลค่าพื้นที่ คาดว่าจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาได้ช่วงต้นเดือนพ.ย. จากนั้นจะเสนอแผนพัฒนาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเป็นครั้งที่ 2 ถ้าหากกระทรวงคมนาคมเป็นชอบก็จะเสนอให้ สคร. และคณะกรรมการพีพีพีตามลำดับ สำหรับที่ดินแปลงเอ ภายในสถานีกลางบางซื่อนั้นเรื่องน่าจะผ่านบอร์ด สคร. และเสนอให้คณะกรรมการพีพีพีพิจารณาแล้ว คาดว่าจะมีการส่งเรื่องกลับมาให้การรถไฟฯ ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐในเดือน พ.ย. นี้ เพื่อจัดการเงื่อนไขประกวดราคา (TOR)