รัฐเดินหน้าแก้ปม"ไอยูยู"

“บิ๊กป้อม” จี้หน่วยงานแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย ตรวจเข้มการทำงานเจ้าหน้าที่หวังปลดล็อกไอยูยู

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ไม่รายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู)

นอกจากนี้ รวมถึงปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะให้สหภาพยุโรปยกเลิกการกำหนดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะถูกจัดให้เป็นประเทศที่ไม่มีความร่วมมือ (Possibility Of Identifying As Non-Cooperation Country) ภายใต้กฎระเบียบไอยูยูของสหภาพยุโรป หรือการยกเลิกใบเหลือง ภายในเดือน มี.ค. 2561

ทั้งนี้ สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกำกับติดตามการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ อันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และให้สร้างการรับรู้แก่บุคลากรในสังกัดให้มีความเข้าใจตรงกันว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นประเทศแรกที่รัฐบาลยอมรับหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ และเมื่อไม่นานมานี้นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) นำหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในประเทศไทยไปปรับใช้กับรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เป็นต้นแบบการประกอบธุรกิจที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ประกอบไปด้วย 3 เสาหลัก คือด้านการคุ้มครองดูแลมิให้บุคคลได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของภาคธุรกิจ ด้านการเคารพ ภาคธุรกิจต้องเคารพสิทธิมนุษยชน และเสาหลักที่ 3 การเข้าถึงการเยียวยา คือเมื่อเกิดการละเมิดขึ้นผู้ได้รับผลกระทบจะต้องได้รับการเยียวยาเร็วที่สุด ทั้งนี้หากเร่งทำความเข้าใจปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนจะช่วยลดปัญหาที่ไทยได้ใบเหลืองจากการไอยูยูได้