posttoday

จ่อซื้อไฟโซลาร์รูฟเสรี

25 กันยายน 2560

ลุ้น กบง.เคาะโครงการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปเสรี 4 ต.ค.นี้ คาดไม่เกิน 1,000 เมกะวัตต์ กดราคาต่ำกว่าปกติ

ลุ้น กบง.เคาะโครงการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปเสรี 4 ต.ค.นี้ คาดไม่เกิน 1,000 เมกะวัตต์ กดราคาต่ำกว่าปกติ

นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ในวันที่ 4 ต.ค. จะมีการพิจารณาแนวทางการเปิดรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อปเสรี) คาดว่าจะเปิดรับซื้อได้ภายในสิ้นปี 2560 โดยหลักการจะเน้นให้ผลิตไฟใช้เองก่อน ส่วนไฟที่เหลือจะเปิดให้ขายเข้าระบบได้ ในระยะแรกจะรับซื้อไม่ถึง 1,000 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ ราคารับซื้อไฟจะต่ำกว่าราคาขายส่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขายให้กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยราคารับซื้อจะแตกต่างกันระหว่างภาคบ้านอยู่อาศัย กับโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์ เนื่องจากต้นทุนติดตั้งแตกต่างกัน เพราะกลุ่มโรงงานสามารถรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ ขณะที่บ้านเรือนไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรีได้ดำเนินการนำร่อง 100 เมกะวัตต์ ในปี 2559 โดยเปิดให้ผู้สนใจยื่นสมัคร แต่ไม่มีการขายไฟเข้าระบบ มีผู้ได้รับอนุมัติโครงการ 385 ราย กำลังการผลิต 32.75 เมกะวัตต์ ส่วนนี้รัฐอาจให้สามารถเข้าร่วมขายไฟฟ้าส่วนเกินได้ เพราะถือว่าได้นำร่องสนับสนุนนโยบายรัฐมาก่อน

“หาก กบง.อนุมัติรูปแบบโซลาร์รูฟท็อปเสรีแล้ว จะต้องนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบต่อไป จากนั้นคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะจัดทำรายละเอียดและกำหนดกติกาต่างๆ เพื่อออกประกาศเปิดโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรี ซึ่งแต่ละพื้นที่จะกำหนดสัดส่วนรับซื้อไฟฟ้าโดยจะพิจารณาจากความสามารถของสายส่งเป็นหลัก”นายประพนธ์ กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พพ.ได้เสนอรูปแบบการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปเสรี 3 กรณี คือ 1.รับซื้อ 6,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2579 หรือ 300 เมกะวัตต์/ปี จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า 0.7-1.4 สตางค์ (สต.)/หน่วย 2.รับซื้อ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์ ภายในปี 2579 หรือ 600 เมกะวัตต์/ปี มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า 1.4-2.8 สต./หน่วย และ 3.รับซื้อ 3,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า 0.8-1.4 สต./หน่วย