ทางด่วนโกยรายได้พุ่ง

กทพ.ระบุยอดใช้ทางด่วน 8 สาย รอบปี 2560 ทะลุ 1.82 ล้านคัน/วัน ทำรายได้รวม 2.57 หมื่นล้าน/ปี

นายวิชาญ เอกรินทรากุล รอง ผู้ว่าการฝ่ายวิชาการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า สถิติการใช้ทางด่วนในปัจจุบันซึ่งมีทั้งสิ้น 8 สาย รวมระยะทาง 224.6 กิโลเมตร (กม.) โดยในรอบปีงบประมาณที่ผ่านมา (ต.ค. 2559-ก.ค. 2560) พบว่ามีปริมาณการจราจรเฉลี่ยรวมทั้งสิ้น 1.82 ล้านคัน/วัน ขยายตัว 0.75% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณการใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.81 ล้านคัน/วัน นับว่าปริมาณการใช้ทางด่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 12.36% สูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปริมาณผู้ใช้ทางด่วน 1.61 ล้านคัน/วัน ระหว่างปีงบประมาณ 2556

ขณะที่รายได้ในรอบปีงบประมาณ 2560 นี้ มีรายได้ประมาณ 2.57 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 70.67 ล้านบาท ขยายตัว 1.01% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้เฉลี่ยวันละ 69.96 ล้านบาท และขยายตัว 29.98% ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2555 ที่มีรายได้เฉลี่ย 52.96 ล้านบาท/วัน

สำหรับทางด่วนที่มีผู้ใช้มากที่สุด 6 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทางด่วนศรีรัช 38.4 กม. ปริมาณเฉลี่ยต่อวัน 7.03 แสนคัน คิดเป็น 38.44% ของทั้งหมด 2.ทางด่วนเฉลิมมหานคร 27.1 กม. ปริมาณเฉลี่ยต่อวัน 3.72 แสนคัน คิดเป็น 20.34% ของทั้งหมด 3.ทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) 22.5 กม. ปริมาณเฉลี่ยต่อวัน 2.57 แสนคัน คิดเป็น 14.07% ของทั้งหมด 4.ทางด่วนฉลองรัช 28.2 กม. ปริมาณเฉลี่ยต่อวัน 2.19 แสนคัน 5.ทางด่วนบูรพาวิถี 55.0 กม. ปริมาณเฉลี่ยต่อวัน 1.46 แสนคัน ส่วนทางด่วน ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร 16.7 กม. ที่เปิดในเดือน ส.ค. 2559 นั้น ในรอบ 13 เดือนแรก มีผู้ใช้อยู่ที่วันละ 4.55 หมื่นคัน

นายประสิทธิ์ เดชศิริ รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร กทพ. กล่าวว่า รายได้ของทางด่วนที่ กทพ.เป็นเจ้าของปีนี้โตขึ้น 10% โดยมีรายได้ตลอดปีอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 9,000 ล้านบาท และในอนาคตหากก่อสร้างโครงการทางด่วน N2 สายเหนือ และโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนองแล้วเสร็จ จะทำให้ กทพ.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 2,000 ล้านบาท ทำให้กำไรในแต่ละปีทะลุ 1 หมื่นล้านบาท