posttoday

คาด1ต.ค.ติดตั้งเครื่องรูดบัตรคนจนเพิ่มในร้านธงฟ้า5,700แห่ง

20 กันยายน 2560

"พาณิชย์" คาด 1 ต.ค.นี้ ติดตั้งเครื่องรูดบัตรคนจนให้ร้านธงฟ้าประชารัฐได้ 5,700 แห่ง และส่งรถโมบายขายสินค้า 200 คัน ครอบคลุมทุกพื้นที่

"พาณิชย์" คาด 1 ต.ค.นี้ ติดตั้งเครื่องรูดบัตรคนจนให้ร้านธงฟ้าประชารัฐได้ 5,700 แห่ง และส่งรถโมบายขายสินค้า 200 คัน ครอบคลุมทุกพื้นที่

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับกรมบัญชีกลาง กรมประชาสัมพันธ์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกันการเตรียมความพร้อมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ เพื่อรองรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่จะมีการใช้บัตรอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค. 2560 นี้ โดยล่าสุดทางธนาคารกรุงไทยได้แจ้งว่าติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐได้แล้วทั้งหมด 3,000 แห่ง และคาดว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องรูดบัตรให้ร้านค้าได้ทั้งหมด 5,700 แห่งภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้จะมีการหาข้อสรุปของรถโมบายที่จะนำไปขายสินค้าธงฟ้าประชารัฐไปขายในพื้นที่ ซึ่งยังไม่สามารถติดตั้งเครื่องรูดบัตรให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐได้ทัน เบื้องต้นคาดว่าจะมีรถโมบายประมาณ 200 คันวิ่งออกให้บริการเพื่อขายสินค้าให้กับผู้ถือบัตรและประชาชนทั่วไปได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เช่นกัน

“สินค้าที่เข้าร่วมโครงการขณะนี้ มีส่งเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมแล้ว 30 ราย และมีสินค้าเข้าร่วม 290 รายการ และคาดว่าจะมีเข้าเพิ่ม เพราะกระทรวงฯเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการทุกรายมาร่วมโครงการ ไม่ได้ปิดกั้นเฉพาะรายใหญ่เท่านั้น และยังได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดไปดูว่ามีสินค้าชุมชมใดที่สนใจเข้าร่วม เช่น ข้าวหอมมะลิ ที่มีผู้ประกอบการชุมชมสนใจ ก็ให้นำมาขายผ่านโครงการเป็นการช่วยเหลือชุมชมท้องถิ่นนั้น และไม่ใช่ผู้ถือบัตรที่จะซื้อสินค้าในโครงการได้ แต่ประชาชนทั่วไปก็ซื้อได้ ดังนั้นเชื่อว่าเม็ดเงินจะสะพัดในโครงการมากว่า 4 หมื่นล้านบาท/ปี” นายสนธิรัตน์ กล่าว  

สำหรับความคืบหน้าการประชาสัมพันธ์โครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมฐานข้อมูลของร้านธงฟ้าประชารัฐ และฐานข้อมูลจำนวนสินค้าที่เข้าร่วม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงการประชาสัมพันธ์โครงการ รวมถึงการขอความร่วมมือให้ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมมือในการประชาสัมพันธ์โครงการ โดยให้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ ณ สาขาที่ธนาคารของรัฐตั้งอยู่ เพราะจะมีประชาชนในพื้นที่ได้สิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปรับบัตรผ่านพื้นที่ของตนเอง ดังนั้นหน่วยงานเหล่านี้จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้ง 11.67 ล้านคน ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ครอบคลุมมากกว่า

“กระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญกรมบัญชีกลาง กรมประชาสัมพันธ์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ประชุมหารือเบื้องต้นขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยจัดสรรงบประมาณบางส่วนในการทำประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสื่อ,วิทยุชุมและผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 3,000 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนรับทราบแนวทางการใช้บัตรได้ถูกต้องด้วย” นายสนธิรัตน์ กล่าว