"บัตรแมงมุม"เชื่อมระบบขนส่งส่อล่าช้าเกิน1ปี

ตั๋วร่วมอืด!ส่อล่าช้าเกิน 1 ปี เหตุติดปัญหาการเชื่อมต่อระบบ รฟม.เร่งจับมือเอกชนพร้อมตั้งบริษัทลูกภายในปี 62

นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด) รฟม.มีมติรับทราบแผนดำเนินการระบบตั๋วร่วมหรือบัตรแมงมุมเพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งตามนโยบายกระทรวงคมนาคม หลังจากนี้รฟม.จะเชิญเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อดำเนินการติดตั้งตั๋วร่วมต่อไป ประกอบด้วย 1.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BTS 2.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM 3. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร หรือ สนข. และ 4. รฟม. คาดว่าจะใช้เวลาติดตั้งตั๋วร่วมในระบบรถไฟฟ้าทั้งสี่สายราว 10-12 เดือน ใช้วงเงินลงทุนทั้งหมดเพียงไม่กี่ร้อยล้านบาท

สำหรับประเด็นที่ว่าหากลงนามMOUได้ในช่วงปลายปีจะส่งผลให้ตั๋วร่วมระบบรถไฟฟ้าจะต้องรอไปจนถึงช่วงปลายปี 2561 หรือไม่ นายฤทธิกากล่าวว่า การเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสี่สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-เตาปูน) รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์(พญาไท-สุวรรณภูมิ) รถไฟฟ้าสายสีเขียว(หมอชิต-แบริ่ง)และรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-หัวลำโพง) ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะไม่สามารถใช้ระบบตั๋วร่วมได้ภายในช่วงมี.ค.2561 ตามที่กนะทรวงคมนาคมตั้งเป้าไว้ จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะดำเนินการเชื่อมรถไฟฟ้าสี่สายได้ครบเมื่อไหร่ แต่จะรีบทำให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปช่วงเวลาที่จะลงนาม MOU เพื่อเริ่มต้นดำเนินโครงการได้อีกด้วย

นายฤทธิกากล่าวอีกว่า ส่วนด้านความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเข้ามา จัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการรายได้ บำรุงรักษาและกำหนดแนวทางดำเนินธุรกิจตั๋วร่วมนั้น ขณะนี้รฟม.อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาโครงสร้างองค์กรและสัดส่วนผู้ถือหุ้น คาดว่าจะได้ตัวที่ปรึกษาภายในปลายปีนี้เพื่อจัดตั้งบริษัทลูกให้แล้วเสร็จภายในปี 2562

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า เดิมกระทรวงคมนาคมต้องการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมในรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์และรถโดยสารสาธารณะ 800 คัน ในเดือนต.ค.2560 ส่งผลให้ความช้าล่าในโครงการดังกล่าวอาจจะต้องนานเกินกว่า 1 ปีหากเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมได้ในช่วงปลายปี 2561