posttoday

พาณิชย์ดันไทยเป็นผู้นำอาเซียนด้านเกษตรอินทรีย์

18 กันยายน 2560

"อภิรดี"เร่งดันแผนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ปี 60-64 ปั้นไทยเป็นผู้นำอาเซียนทั้งด้านการผลิต บริโภค และบริการ ตั้งเป้าขยายตัวปีละ 20% จากปัจจุบันมูลค่า 2,700 ล้านบาท

"อภิรดี"เร่งดันแผนยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ปี 60-64 ปั้นไทยเป็นผู้นำอาเซียนทั้งด้านการผลิต บริโภค และบริการ ตั้งเป้าขยายตัวปีละ 20% จากปัจจุบันมูลค่า 2,700 ล้านบาท

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่  18-19 กันยายน 2560 โดยได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและพบปะเกษตรกร ณ ศูนย์ถ่ายทอดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซองเดอร์ ไทยออร์แกนิคฟู้ด ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี   เพื่อติดตามความคืบหน้าการผลักดันนโยบายเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติปี 2560-2564 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ฉบับที่ 2 หลังจากที่ฉบับแรกได้สิ้นสุดไปเมื่อปี 2554 มีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอาเซียนด้านการผลิต การบริโภค การค้าสินค้า และการบริการเกษตรอินทรีย์ ที่มีความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีแผนการทำงานใน 4 ด้าน คือ 1. การส่งเสริมการวิจัย การสร้างและเผยแพร่องค์ความรู้และนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ 2. การพัฒนาการผลิตสินค้าและบริการเกษตรอินทรีย์ 3. การพัฒนาการตลาดสินค้าและบริการและการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และ 4. การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้มูลค่าตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทยที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 2,700 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออกประมาณ 1,100 ล้านบาท และมูลค่าตลาดในประเทศประมาณ 1,600    ล้านบาท โดยต้องการให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นให้ได้ปีละ 20% เพราะปัจจุบันความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ประกอบกับกระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดันและส่งเสริมด้านการตลาดให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะผลักดันให้มีารขยายตัวได้เพิ่มขึ้นแน่นอน

สำหรับแผนการเพิ่มปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการผลักดันให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยได้เข้าไปให้ความรู้ แนะนำการเพาะปลูก การพัฒนากระบวนการผลิต การแปรรูป และได้เข้าไปช่วยเหลือด้านช่องทางการตลาดทั้งการผลักดันให้มีการจำหน่ายในห้างค้าปลีก ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดตัวสินค้าเกษตรอินทรีย์และผลักดันให้มีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์โลกมีมูลค่าสูงประมาณ 3 ล้านล้านบาท มีอัตราขยายตัวปีละ 20% จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย เพราะมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเหตุที่ผู้บริโภคทั่วโลกได้หันมาให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปราศจากสารเคมี หรือสารพิษตกค้าง และยังมีกระแสการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อมโลกที่ประเทศที่พัฒนาแล้วให้ความสำคัญ จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์เติบโตมากยิ่งขึ้น