posttoday

ปลดล็อกธุรกิจประมง

16 กันยายน 2560

กรมประมงเตรียมเปิดแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน หลัง 2 เดือนเงินหมุนเวียนธุรกิจหายไป 4 หมื่นล้าน

กรมประมงเตรียมเปิดแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียน หลัง 2 เดือนเงินหมุนเวียนธุรกิจหายไป 4 หมื่นล้าน

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เตรียมให้ผู้ประกอบการประมงนำแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง การออกหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง พ.ศ. ... (ฉบับที่ 3) เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคประมง โดยจะเปิดให้แรงงานประมงต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนตั้งแต่ 1-31 ต.ค. 2560 ซึ่งเมื่อขึ้นทะเบียนแล้วจะขยายเวลาอีก 15 วัน เพื่อให้มีการจับคู่นายจ้างและลูกจ้าง แต่จะไม่ใช่การขยายวันขึ้นทะเบียน

ทั้งนี้ จะเปิดจุดบริการใน 22 จังหวัดชายทะเลทำงานบูรณาการร่วมกับระหว่างกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีแรงงานทำประมง ซึ่งจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ กรมประมงจะออกหลักเกณฑ์การควบรวมใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวประมงที่มีวันทำการได้น้อย เนื่องจากถูกลดวันทำประมง โดยเป็นการออกตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2560 ให้อำนาจอธิบดีกรมประมงออกหลักเกณฑ์ใดๆ เพื่อแก้ไขอุปสรรคในกิจการประมง เนื่องจากการเปิดให้ขึ้นทะเบียนเรือและตรวจสอบศักยภาพเครื่องมือประมง มีเรือมาขึ้นทะเบียน 10,570 ลำ ซึ่งพบว่า มีเรือที่มีศักยภาพเกินกว่าที่แจ้งไว้ทั้งขนาดเรือและเครื่องมือรวมแล้วประมาณ 8,000 กว่าลำ ทำให้มีการสั่งปรับลดจำนวนวันทำการเหลือตั้งแต่ 140 วันถึง 220 วัน ซึ่งจะกระทบ กับการทำธุรกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการเรือบางลำไม่ต้องการทำประมงต่อและต้องการขายเรือ ดังนั้นจึงออกมาตรการดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถซื้อเรือที่ต้องการขาย เป็นการลดจำนวนเรือตามเจตนารมณ์ของกรมประมงด้วย

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอบคุณรัฐบาลที่ออกประกาศฉบับนี้ให้เนื่องจากการขาดแรงงานประมงใน 2 เดือนที่ผ่านมาธุรกิจประมงขาดแรงงานกว่า 7 หมื่นคน ทำให้เงินหมุนเวียนในธุรกิจประมงหายไปในระบบหายไปกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดิมขอขยายเวลาขึ้นทะเบียน 3 เดือน แต่ทางกระทรวงเกษตรฯ กำหนดให้ 1 เดือน

ปัจจุบันมีแรงงานประมงที่เตรียมขึ้นทะเบียนประมาณ 3 หมื่นคน เมื่อประกาศบังคับใช้ก็สามารถนำแรงงานประมงไปจดทะเบียนทำประมงในเรือได้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครกล้านำลงเรือเพราะโทษรุนแรงปรับ 4-8 แสนบาท