posttoday

ประมงเจ๋งโชว์งานวิจัยนำหนังปลานิลผลิต “คอลลาเจน” คุณภาพสูง

01 กันยายน 2560

กรมประมงโชว์ผลงานวิจัย นำหนังปลานิลผลิต “คอลลาเจน” คุณภาพสูง

กรมประมงโชว์ผลงานวิจัย นำหนังปลานิลผลิต “คอลลาเจน” คุณภาพสูง

นายอดิศร  พร้อมเทพ  อธิบดีกรมประมง  กล่าวว่า  โดยจากข้อมูลในปี 2559 มีปริมาณผลผลิตปลานิลจากการเพาะเลี้ยงถึง 176,463 ตัน มีการส่งออกปลานิลและผลิตภัณฑ์กว่า 7,975ตัน คิดเป็นมูลค่า 598.5 ล้านบาท โดยส่งออกในรูปแบบของเนื้อปลานิลแปรรูปแช่แข็งและแช่เย็น ถึง38.1 %ซึ่งการแปรรูปดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดเศษเหลือทิ้งจากหนัง เกล็ด ครีบ และก้างปลาปริมาณมากถึง50-70 %ของวัตถุดิบเริ่มต้น เลยทีเดียว 

กรมประมงจึงได้ศึกษาวิจัยเพื่อหาแนวทางในการนำเศษเหลือทิ้งเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ โดย การผลิตเป็นคอลลาเจน  ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และเป็นการช่วยลดปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

นายปวเรศวร์  อินทุเศรษฐ  นักวิชาการผลิตภัณฑ์อาหารชำนาญการพิเศษ  กองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ  กรมประมง  นักวิจัยผู้ศึกษาวิจัยเรื่อง “การสกัดคอลลาเจนที่ละลายในกรดจาก หนังปลานิล”  กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเศษเหลือทิ้งจากการแปรรูปสัตว์น้ำส่วนใหญ่ถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และการทำปุ๋ย ซึ่งนับว่ามีมูลค่าค่อนข้างต่ำ จึงมีแนวคิดที่จะนำเศษเหลือทิ้งจากปลานิล มาศึกษาวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น ด้วยการสกัดเป็นคอลลาเจนเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น เครื่องหนัง ยารักษาโรค วัสดุทางการแพทย์ เครื่องสำอางค์ อาหาร  และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นต้น

ประมงเจ๋งโชว์งานวิจัยนำหนังปลานิลผลิต “คอลลาเจน” คุณภาพสูง

 

ที่ผ่านมามีการศึกษาการสกัดคอลลาเจนจากหนังและก้างปลาซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล มีการศึกษาสกัดคอลลาเจนจากหนังปลาน้ำจืดน้อยมาก จึงนับเป็นความท้าทายของงานวิจัยชิ้นนี้ ซึ่งอาจใช้เป็นแนวทาง ในการพัฒนาการใช้ประโยชน์เศษเหลือทิ้งจากสัตว์น้ำจืดชนิดอื่น ๆ ได้ต่อไปในอนาคต

สำหรับขั้นตอนการศึกษาสกัดคอลลาเจนจากหนังปลานิลนั้น  เริ่มต้นจากการนำหนังปลามากำจัดโปรตีนที่ไม่ใช่คอลลาเจนออกโดยการแช่ในสารละลายด่าง จากนั้นกำจัดไขมันในหนังปลาออกโดยใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ แล้วจึงทำการสกัดคอลลาเจนโดยใช้กรดอะซิติก จากนั้นกรองเอาส่วนของเหลวมาตกตะกอนคอลลาเจนโดยการเติมเกลือ  แล้วแยกตะกอนโดยใช้เครื่องหมุนเหวี่ยง และนำตะกอนคอลลาเจนที่ได้ไป ทำให้บริสุทธิ์โดยการทำไดอะไลซิส  แล้วจึงทำให้แห้งจะได้เป็นคอลลาเจนบริสุทธิ์ที่มีคุณภาพสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย โดยมีคุณสมบัติเทียบเท่าคอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลและสัตว์บกทั่วไป

ซึ่งหนังปลานิลจำนวน 100 กรัม จะสามารถผลิตคอลลาเจนได้ปริมาณถึง 30 กรัม ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดทางความคิดอย่างต่อเนื่อง  โดยขณะนี้ได้นำเอาเศษเหลือทิ้งส่วนอื่น ๆ ของปลา เช่น เกล็ด มาสกัดเป็นคอลลาเจนได้อีกด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและ ลดเศษเหลือทิ้งจากการแปรรูปสัตว์น้ำให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้ หากภาคเอกชน หรือกลุ่มธุรกิจ SME รายใดมีความสนใจในงานวิจัยดังกล่าว และต้องการนำไปพัฒนาขยายผลในเชิงอุตสาหกรรม สามารถสอบกรมประมงได้ทุกวันเวลาราชการ