พีซีเอสคว้าลงทุนสนามบิน

ทอท.ไฟเขียวพีซีเอส ลงทุนโครงการสุวรรณภูมิ 1.4 หมื่นล้าน ขณะที่คิง เพาเวอร์ ได้สิทธิบริหารดอนเมือง

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวย การใหญ่  บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบให้ว่าจ้าง บริษัท พีซีเอส จอยท์เวนเจอร์ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย)  เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) เป็นเงินจำนวน 14,235 ล้านบาท เนื่องจากเป็นผู้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง 1,941 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 12% กำหนดระยะเวลา 660 วันนับตั้งแต่รับแจ้งให้เริ่มงานก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 พร้อมเปิดบริการในปี 2560 ให้กับพีซีเอสจอยท์เวนเจอร์ดำเนินการก่อสร้างต่อไป

นอกจากนี้ เห็นชอบให้บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ  ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคาร ผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากบริษัท คิง เพาเวอร์ เสนอผลตอบแทนสูงสุดราคา 9,100 บาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) และคณะกรรมการเจรจาต่อรองทำให้บริษัทจ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทน เพิ่มเป็น 9,200 บาท/ตร.ม. คิดเป็นวงเงินประมาณเดือนละ 17.68 ล้านบาท มีอายุสัญญา 10 ปี นับตั้งแต่ ทอท.ส่งมอบพื้นที่

ทั้งนี้ ทอท.ได้กำหนดค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนจากการประกอบกิจการในอัตรา 15% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายไว้ด้วย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าจำนวนเงินส่วนไหนมากกว่าก็จะจ่ายค่าตอบแทนให้กับ ทอท.ในส่วนนั้น

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. วันที่ 20 ก.ย.นี้ จะเสนอกรอบพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ (มาสเตอร์แพลน) ปี 2561 ให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการโครงการอะไรบ้าง และมีโครงการไหนที่ทำเอง และโครงการไหนที่จะเปิดให้เอกชนร่วมกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี

สำหรับที่ดินเปล่าที่รอการพัฒนาหรือแปลง 37 หรือประมาณ 600-700 ไร่นั้น หากเป็นเขตปลอดภาษีในสนามบิน (ฟรีเทรดโซน) พื้นที่ 420 ไร่ จะจัดเก็บผลตอบแทนสินทรัพย์ หรือ อาร์โอเอ ในอัตราที่ 0.1% ของกำไรสุทธิของงานบริหารพื้นที่ เพราะเป็นพื้นที่ช่วยเหลือผู้ส่งออก โดยการจัดเก็บแบบใหม่จะเริ่มมีผลใช้ตั้งแต่งวดปี 2561 (ต.ค. 2560-ก.ย. 2561) โดยสัญญาเช่าที่ราชพัสดุจะหมดในปี 2564 ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบจัดเก็บ 3% ขณะที่พื้นที่ว่างเปล่ายังไม่มีแผนชัดเจน นอกจากนี้ในส่วนของค่าเช่าที่จะเก็บย้อนหลังในช่วงปี 2555-2560 นั้น กรมธนารักษ์จะไม่คิดค่าตอบแทนแบบอาร์โอเอ แต่ให้คิดส่วนต่างจากอัตราเงินเฟ้อของแต่ละปีคาดว่าประมาณ 1,000 ล้านบาท

นายวิชัย บุญยู้ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่  ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อจัดตั้งบริษัทลูก GSE Ground Service Equipment เข้ามายกระดับงานบริการภายในสนามบินดอนเมือง