ขนส่งฯยันยังไม่ขึ้นค่ารถเมล์ แจงใช้ชื่อสายเป็นอักษรอังกฤษเพื่อให้จำง่าย

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยืนยันไม่ขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ช่วงเปลี่ยนผ่าน 2 ปี เล็งปรับรวดเดียว 269 เส้นทาง เผยใช้อักษรอังกฤษเพื่อให้จำง่าย

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า การปฏิรูปเส้นทางเดินรถ 269 เส้นทางจะมีช่วงเปลี่ยนผ่านระยะเวลา 2 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงทดลองการเดินรถและรับฟังเสียงประชาชนดังนั้นในช่วงเวลานี้จะยังใช้ค่าโดยสารในราคาเดิมไม่มีปรับขึ้นราคา อย่างไรก็ตามการปฏิรูปเส้นทางเดินรถนั้นเป็นการยกระดับบริการและเส้นทางเดิมรถให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการมีรายจ่ายเดินรถซึ่งสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้นจึงมองว่าภายหลังจากปฏิรูปแล้วมีโอกาสจะปรับขึ้นค่ารถเมล์ทั้งระบบเพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างว่าจ้างที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)เพื่อศึกษาแนวทางปรับราคาค่าโดยสารให้เหมาะสมต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 10 เดือน – 12 เดือน

"การปฏิรูปเส้นทางเดินรถใหม่ครั้งนี้อยากให้สิ่งดีๆอยางคุณภาพบริการเกิดก่อนการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร ถ้าคุณภาพยังไม่เกิด การขึ้นราคาเท่ากับว่าเป็นภาระของประชาชน"นายสนิทกล่าว

กรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยกับการใช้อักษรภาษาอังกฤษเป็นชื่อสายรถเมล์จนอาจเกิดความสับสนนั้น นายสนิทกล่าวว่า การใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำเนื่องจากมีตัวเลขเพียงสองหลัก เช่น B45แตกต่างจากสายรถเมล์เดิมที่มีตัวเลขสามหลักเช่น 501 อีกทั้งยังรองรับการพัฒนาเส้นทางเพิ่มเติมในอนาคตที่อยู่ในเขตหรือเส้นทางเดินใกล้เคียง อาทิ B46 B47และB48 เป็นต้น นอกจากนี้เส้นทางใหม่ยังใช้การจดจำแบบสัญลักษณ์โดยการใช้สีแบ่งเขตการเดินรถอีกด้วยเพื่อให้เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ในช่วงระหว่างการทดลองเดินรถ 8 เส้นทาง ขบ.จะรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่ายและอาจพิจารณาการใช้อักษรภาษาอังกฤษถ้ามีความจำเป็นโดยอาจพิจารณาเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรอย่างเดียวไปเลยก็ได้

นายสนิทกล่าวต่อว่า  การเปิดทดลองเดินรถสายใหม่ 8 เส้นทางเป็นไปตามเป้าหมายการปฏิรูปเส้นทางเดินรถ เพื่อเชื่อมโยงระบบการเดินทางในเมืองหลวงให้เข้าถึงจุดหมายปลายทางมากขึ้นตลอดจนตอบสนองการเดินทางของประชาชน โดยแต่ละเส้นทางจะใช้รถโดยสาร 5 คันซึ่งเป็นรถเมล์ที่ได้มาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบจะต้องมีความปลอดภัย

นอกจากนี้ผู้ประกอบการจะต้องมีความพร้อมในการประกอบการมีความรับผิดชอบต่อประชาชน โดยรถที่นำมาทดลอง จะทดลองควบคู่ไปกลับรถสายเดิมที่ยังให้บริการโดยเลือกเส้นทางที่ใกล้เคียงกับเส้นทางเดิมเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน เช่นสาย B44 หรือสาย 54 เดิมเส้นทางวงกลมห้วยขวาง โดยมีรถทั้งหมด 32 คัน แบ่งมาใช้ในการทดลองเดินรถจำนวน 5 คันโดยเส้นทางจากขยายจากวงกลมห้วยขวางเป็นวงกลมรัชดาพระราม 9 หลังจากนี้จะทยอยนำเส้นทางปฏิรูปทยอยออกมาให้เอกชนร่วมประมูลเส้นทางเดินรถ ซึ่งรถร่วมบริการและขสมก.สามารถมาขอใบอนุญาตได้ที่กรมการขนส่งทางบก แต่จะต้องผ่านคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อคุณภาพการให้บริการ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่ใช้บริการ และในอนาคตคาดหวังว่าจะช่วยลดปัญหาการจราจรได้ ทั้งนี้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิรูปการเดินรถครั้งนี้ได้ที่เฟซบุ๊กการปฏิรูปเส้นทางการเดินรถ