posttoday

เอกชนยันเดินหน้าชิงเค้กรถเมล์เอ็นจีวี-อีวี

01 สิงหาคม 2560

เอกชนยันเดินหน้าร่วมซื้อซองประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวี-อีวี ย้ำไม่ลดสเปคแม้ใช้ราคากลางเดิม แนะรัฐบาลลงทุนเพื่ออนาคต

เอกชนยันเดินหน้าร่วมซื้อซองประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวี-อีวี ย้ำไม่ลดสเปคแม้ใช้ราคากลางเดิม แนะรัฐบาลลงทุนเพื่ออนาคต

จากกรณีที่คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.มีมติให้โครงการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คันนั้นใช้ราคากลางเดิม วงเงิน 3,387 ล้านบาท ซึ่งมีบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัดเป็นผู้ชนะจนมีบางฝ่ายมองว่าจะต้องล้มประมูลเนื่องจากไม่มีเอกชนสนใจเข้าร่วมแข่งขั้นนั้น

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะเดินหน้าเข้าร่วมแข่งขันซื้อซองประกวดราคาโครงการรถเมล์เอ็นจีวีครั้งนี้แน่นอน แม้ราคากลางจะต่ำกว่าราคาตั้งต้นที่ 4,021 ล้านบาท โดยภายในสัปดาห์นี้จะหารือกับคู่ค้าบริษัทจีน เพื่อขอความสนับสนุนทางด้านการเงินเพื่อลดราคาสินค้าให้คุ้มทุนกับกรอบราคากลางที่ขสมก.ตั้งไว้ 3,387 ล้านบาท เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจากนั้นจะเข้าหารือกับผู้บริหารขสมก.ร่วมกันภายในเดือน ส.ค.เพื่อหาทางออกสำหรับความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการก่อนตัดสินใจซื้อซองประกวดราคาต่อไป อย่างไรก็ตามบริษัทขอยืนยันว่าจะไม่มีการลดสเป็คของรถเมล์จากเดิมที่เคยเสนอไว้ในราคาตั้งต้นแม้จะถูกปรับลดลงมาจำนวนมาก เพื่อเร่งส่งเสริมให้ประชาชนกรุงเทพมหานครได้ใช้รถเมล์ใหม่

ส่วนประเด็นที่กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างปรับแผนจัดซื้อรถเมล์ขสมก.จำนวน 3,000  คันนั้นขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจัดหารถเมล์ใหม่โดยมองเรื่องผลประโยชน์ประชาชนมาก่อนเรื่องความคุ้มค่าเพื่อผลักดันโครงการเจ้าปัญหาให้สำเร็จได้ในรัฐบาลชุดนี้

อย่างไรก็ตามการจัดซื้อรถเมล์พลังงานทางเลือกเป็นการลงทุนระยะยาวที่มีความคุ้มค่าโดยเฉพาะรถเมล์ไฟฟ้าและรถเมล์ไฮบริด เนื่องจากในอนาคตอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่จะมีราคาถูกลงมากประกอบกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมืองหลวงจะส่งผลให้รถเมล์ทั้งสองประเภทดังกล่าวมีต้นทุนดำเนินการที่ต่ำกว่ารถเมล์เอ็นจีวี แต่ระหว่างนี้รัฐบาลควรเร่งจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีก่อนเพื่อรอช่วงเปลี่ยนผ่าน 20 ปี ซึ่งก็จะพอดีกับอายุการใช้งานรถเมล์เอ็นจีวี ดังนั้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของบริษัทจึงมองว่าสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนจัดซื้อรถเมล์ใหม่ 3,000 คัน ประกอบด้วย รถเมล์เอ็นจีวี 1,500 คัน รถเมล์ไฮบริด 1,000 คันและรถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) 500 คัน

ส่วนกรณีที่ขสมก.อยู่ระหว่างเสนอเรื่องให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อขอยกเว้นภาษีการนำเข้ารถเมล์ไฟฟ้านั้น บริษัทขอยืนยันว่าจะเดินหน้าเข้าร่วมแข่งขันในโครงการนี้อย่างแน่นอน หากแม้กระทรวงการคลังปฏิเสธที่จะยกเว้นภาษีบริษัทก็พร้อมเดินหน้าหารือกับทุกฝ่ายเพื่อผลักดันโครงการให้เกดขึ้นได้จริง