posttoday

พาณิชย์เตรียมยื่นอุทธรณ์ปมคำสั่งระงับขายข้าวเสื่อม

03 กรกฎาคม 2560

"พาณิชย์"เตรียมยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครองกลางเหตุมีคำสั่งระงับการขายข้าวเสื่อม หลังบริษัททีพีเค เอทานอล ยื่นฟ้องรัฐ

"พาณิชย์"เตรียมยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครองกลางเหตุมีคำสั่งระงับการขายข้าวเสื่อม หลังบริษัททีพีเค เอทานอล ยื่นฟ้องรัฐ

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ กรมในฐานะคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาล จะยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครองกลาง หลังจากที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งระงับกระบวนการประกวดราคา และการทำสัญญากับบุคคลหรือนิติบุคคล รวมทั้งการดำเนินการตามสัญญาในการประกวดราคาจำหน่ายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเพื่อเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภคไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากบริษัททีพีเค เอทานอล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยมีผู้ถูกฟ้องคือกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และคณะทำงานดำเนินการระบายข้าว โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเข้าร่วมประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้เสนอซื้อในราคาสูงสุด 74 คลัง ปริมาณรวม 5.25 แสนตัน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติขาย 

อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้กรมจะต้องชะลอการทำสัญญาซื้อขายข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค ครั้งที่ 2/2560 หรือข้าวกลุ่ม 2 กับผู้ชนะการประมูลรวม 2 ล้านตัน ที่ได้เปิดประมูลไปเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ไว้ก่อน และชะลอการเปิดประมูลข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค หรือข้าวกลุ่ม 3 ปริมาณ 5.68 แสนตัน ครั้งที่ 2/2560 ที่ตามกำหนดเดิมจะเปิดประมูลในวันที่ 17 ก.ค.นี้ไว้ก่อน หรือรวมปริมาณข้าวกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 ที่จะต้องชะลอการขายปริมาณรวม 2.56 ล้านตัน ซึ่งข้าวในกลุ่มที่ 3 ปริมาณ 5.68 แสนตันนั้น เป็นข้าวที่ครอบคลุมกับข้าวในส่วนที่บริษัททีพีเค เอทานอล ยื่นซื้อราคาสูงสุดเข้ามาแต่ไม่ได้อนุมัติขาย เพราะถูกตัดสิทธิ์ไปก่อน 

สำหรับ การยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครอง จะชี้แจงว่าคณะทำงานฯได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของการระบายข้าวอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเป็นระบบ ซึ่งเมื่อเปิดประมูลทุกครั้งและมีผู้เสนอราคาซื้อก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯและนบข.ที่ได้มอบหมายให้ประธานนบข.เป็นผู้อนุมัติ โดยสาเหตุที่ต้องตัดสิทธิ์บริษัททีพีเค เอทานอล ในการประมูลข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภคเมื่อวันที่ 28 เม.ย.นั้น เนื่องจากตรวจสอบคุณสมบัติย้อนหลังพบว่าบริษัทดังกล่าวขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้เสนอซื้อตั้งแต่ต้น

“กรรมการในนิติบุคคล 2 ราย เป็นจำเลยที่กระทำผิดสัญญาตามโครงการยกระดับราคาหัวมันสำปะหลังโดยผ่านกลไกการผลิตและการตลาดปี 2536-37 ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนแก่กรมการค้าต่างประเทศ แต่จนบัดนี้ทั้ง 2 รายยังไม่ชำระหนี้เงินตามคำพิพากษาแต่อย่างใด ทำให้บริษัท ที พี เค เอทานอล เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้เสนอซื้อ ก็จะชี้แจงไปที่ศาลปกครอง”นางดวงพร กล่าว

นอกจากนี้ จะชี้แจงต่อศาลปกครองกลาง โดยให้ข้อมูลในกรณีที่มีการสั่งระงับการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง เบื้องต้นรัฐบาลต้องเสียค่าฝากเก็บสต๊อกข้าวรัฐบาลคิดเป็นเงินเดือนละ 36 บาท/ตัน หากมีการเก็บข้าวสารสต๊อกรัฐบาลไว้ 5 แสนตัน ก็จะต้องเสียเงินค่าฝากเก็บประมาณ  31 ล้านบาท/เดือน โดยยอมรับว่าอาจมีผลต่อแผนการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลทำให้ช้ากว่าแผนเดิมที่คาดว่าจะระบายข้าวได้หมดสต๊อกภายในเดือนก.ย.นี้

ส่วนข้าวสารที่คนบริโภคได้ 1.67 แสนตัน หรือข้าวกลุ่ม 1 ยังคงเปิดประมูลตามแผนปกติ โดยเปิดให้ผู้สนใจดูข้าวในคลังสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 3-7 ก.ค. ก่อนเปิดให้ยื่นซองเอกสารตรวจสอบคุณสมบัติในวันที่ 13 ก.ค. โดยจะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติพร้อมให้ยื่นซองเสนอราคาและเปิดซองเสนอราคาในวันที่ 18 ก.ค.

สำหรับสถานะของข้าวสต๊อกรัฐบาลปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 2.87 ล้านตัน แบ่งเป็น ข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวคนบริโภคได้ 1.67 แสนตัน ข้าวกลุ่ม 2 ข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค 2.14 ล้านตัน และข้าวกลุ่ม 3 หรือข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค 5.68 แสนตัน ถ้าแยกข้าวกลุ่ม 1 ออกมา เหลือเฉพาะข้าวกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 จะเหลืออยู่ 2.7 ล้านตัน

ปัจจุบันรัฐบาลสามารถระบายข้าวในสต๊อกได้แล้วกว่า 15.97 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.41 แสนล้านบาท  ส่วนการส่งออกข้าวในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (1 ม.ค. -29 มิ.ย.)   สามารถส่งออกข้าวได้แล้วรวมกว่า 6.05 ล้านตันเพิ่มขึ้น 21.8%  เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า  8.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็น 2,595 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.42% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน