ดีเดย์ตรวจสต็อกยางเอกชนทั่วประเทศ 20 มิ.ย.

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผย จนท.เตรียมตรวจสต็อกยางเอกชนทั่วประเทศ 20 มิ.ย.นี้ ขู่พบแจ้งสต็อกไม่ตรงกับยาง โดนถอนใบอนุญาตทันที

นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าได้เรียกประชุมคณะทำงานและเจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ที่มีสต็อกยางเพื่อเข้าตรวจสอบริมาณยางที่แท้จริงของเอกชน โดยจะเข้าตรวจแแบบปูพรหมทุกโกดัง ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ว่ามีปริมาณยางตามที่แจ้งไว้หรือไม่ หากพบว่าเอกชนรายใดมีสต็อกไม่ตรงกับบัญชีที่แจ้งกับกรมวิชาการเกษตรจะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตทันที

อธิบดีกรมวิชการเกษตร กล่าวว่าโดยอำนาจของคณะทำงานตามคำสั่งพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หลังจากที่ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานภายใต้ พรบ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 ได้มอบหมายให้ กยท.เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ.ควบคุมยาง 2542 ซึ่งจะทำงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตรในการตรวจสอบปริมาณยางในสต็อค การนำเข้าและส่งออกยาง หรือที่เกี่ยวข้องกับพรบ.ฉบับนี้ ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของปริมาณยางในตลาดที่มีอยู่จริง ป้องกันปัญหาการบิดเบือนข่าว การกักตุนสินค้าหรือทุบราคายาง

นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)กล่าวว่าทางกยท.ได้ร่วมตรวจสอบรายละเอียดสต็อกยางทั้งหมดทั่วประเทศ กับกรมวิชาเกษตร จะถือว่าเป็นผลดีทำให้รู้ชัดเจนถึงปริมาณยางที่แท้จริง ซึ่งจะสามารถชี้แจงข้อมูลให้สังคมรับทราบ วางแผนการดำเนินการแก้ไขปัญหาไดเป็นรูปธรรมทั้งหมด

การเข้าตรวจสอบปริมาณยางในสต็อกเอกชน ครั้งนี้จะทำให้รู้ชัดเจนจริงๆว่าตัวเลขยางจริงๆเท่าไหร่ เพราะตัวเลขส่งออกยางของกยท.กับกรมศุลกากร ยังไม่ตรงกันที่ผ่านมากยท.ก็ไม่มีอำนาจไปตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องในเรื่องตัวเลขปริมาณยางที่จะประสานเก็บเงินเซส กับกรมศุลกากร เมื่อ รมว.เกษตรฯลงนาม กยท.จะมีอำนาจตามกฏหมาย จะทำให้ตรงกันมากขึ้น การใช้มาตรการเข้มข้นส่งผลทำให้ราคายางดีขึ้น

ผว.กยท.ยอมรับว่า พอมีปัญหาข่าวลือต่างๆเอกชนก็บอกสต็อกเต็ม ส่งผลราคาน้ำยางทันที และพ่อค้ารายย่อยก็ไม่รับซื้อ หลังจากเข้าไปดำเนินการตรวจสอบทั้งหมดครั้งนี้ จะทราบปริมาณยางที่ชัดเจนในสต็อกเอกชน ส่งผลต่อการจัดเก็บเงินเซสที่ถูกต้องมากขึ้น