posttoday

ชงแผนแอลเอ็นจี3ล้านตัน ดันเข้ากพช.เดือนก.ค.นี้

02 มิถุนายน 2560

สนพ.เตรียมเสนอรายงานผลศึกษาคลังแอลเอ็นจีในเมียนมาเข้า กพช.เดือน ก.ค.นี้ หวังดึงร่วมลงทุน

สนพ.เตรียมเสนอรายงานผลศึกษาคลังแอลเอ็นจีในเมียนมาเข้า กพช.เดือน ก.ค.นี้ หวังดึงร่วมลงทุน

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ปตท. ได้ส่งรายงานผลการศึกษาโครงการคลังก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีลอยน้ำ (เอฟเอสอาร์ยู) ในประเทศเมียนมา มาให้ สนพ.แล้ว โดยเตรียมเสนอต่อ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเดือน ก.ค.นี้ ทั้งนี้เป็นไปตามมติ กพช.เดิมที่มอบหมายให้เป็นผู้ศึกษารายละเอียดคลังแอลเอ็นจีในเมียนมา 3 ล้านตัน ให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 2560

ทั้งนี้ เบื้องต้นการประเมินแผนการก่อสร้าง ทางภาครัฐเห็นว่ามีความเป็นไปได้ชัดเจนมากขึ้น โดยรูปแบบการลงทุนยังไม่ระบุว่าจะเป็นแบบใด แต่หากมีการลงทุนร่วมกันระหว่าง ปตท.และรัฐบาลเมียนมา เชื่อว่าจะทำให้การดำเนินงานรวดเร็วขึ้น ขณะเดียวกันพบว่า มีบริษัทระดับโลกหลายรายสนใจร่วมทุนกับ ปตท. แต่ต้องรอการตัดสินใจของรัฐบาล เมียนมาเป็นหลักก่อน เพื่อให้โครงการมีความเป็นรูปธรรมรวดเร็วมากขึ้น

"ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประชุมร่วมกันถึงรูปแบบการก่อสร้างและมูลค่าการลงทุนและยังอยู่ระหว่างรอเจรจากับรัฐบาลเมียนมาด้วย ทั้งเรื่องราคาค่าผ่านท่อก๊าซ และรูปแบบการลงทุนร่วมกัน หากทางนั้นสนใจ แต่ตามแผนสามารถดำเนินการได้เร็วที่สุดคือปี 2566 เพื่อรองรับวิกฤตพลังงานที่จะเกิดขึ้นในช่วง 5 ปีข้างหน้า" นายประเสริฐ กล่าว นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ปตท.อยู่ระหว่างทบทวนแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2560-2564) ของกลุ่ม ปตท.ซึ่งเป็นการทบทวนตามปกติทุกครึ่งปี ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงกลางปีนี้ จากแผนปัจจุบันที่จะลงทุน 5 ปีในวงเงิน 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งแต่ละบริษัทในกลุ่มจะนำเสนอรายละเอียดเพื่อนำเสนอภายในปีนี้

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม ปตท.มีแผนดำเนินโครงการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมีทั้งโครงการ การขยายกำลังการผลิตของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล การขยายกำลังการกลั่นของ บริษัท ไทยออยล์ โครงการขยายกำลังการผลิตของ บริษัท ไออาร์พีซี โครงการลงทุนคลังก๊าซธรรมชาติเหลว การสร้างศูนย์พัฒนานวัตกรรม เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ

ด้าน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวในการเป็นประธานในพิธีเปิดตัว พีทีทีกรุ๊ป อีวี บัส รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ว่า ไทยยังพึ่งพาการ นำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน กระทรวงจึงต้องผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยนำร่องใช้งานในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ และสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับเพื่อให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลต่อไป

สำหรับพีทีที กรุ๊ป อีวี บัส เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ ที่เกิดขึ้นจากองค์ความรู้ของ กลุ่ม ปตท. ผลิตขึ้นใหม่ในไทย มีขนาดเทียบเท่ารถมินิบัส โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3 คัน ประกอบด้วย รถโดยสารทั่วไป 2 คัน และรถที่มีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษรองรับผู้พิการ 1 คัน แต่ละคันสามารถรองรับผู้โดยสารนั่งได้จำนวน 20 คน ผู้โดยสารยืนจำนวน 20 คน รวม 40 คน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมระบบปรับอากาศภายในตัวรถ กักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 35.3 กิโลวัตต์/ชม.