posttoday

ปปท.ตรวจโกดังข้าว "อคส." พบเสียหาย 6.6 หมื่นล้าน

01 มิถุนายน 2560

ปปท.ลงพื้นที่ตรวจโกดังเก็บข้าวของอคส. พบพื้นที่ 8 จังหวัดเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท

ปปท.ลงพื้นที่ตรวจโกดังเก็บข้าวของอคส. พบพื้นที่ 8 จังหวัดเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่จังหวัดนครสวรรค์ นายประยงค์ ปรียาจิตต์  เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีคลังสินค้าศิริวรรณหลังที่ 2 ซึ่งเก็บรักษาข้าวขององค์การคลังสินค้า (อคส.)ขนส่งข้าวจำนวน 6,205.30 ตัน ส่งให้กับปลายทางบริษัท สิงห์โตทอง ไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  ตั้งอยู่ที่จ.กำแพงเพชรเพื่อนำไปแปรสภาพ ซึ่งพบว่ามีการเซ็นรับโดยหัวหน้าคลังสินค้าเป็นผู้จัดทำเอกสาร แต่กลับไม่มีข้าวส่งมาที่บริษัทสร้างความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท โดยกรณีดังกล่าวสืบเนื่องโครงการรับจำนำข้าวปี 2556

นายประยงค์ กล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเดิมและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยประสานอคส.ที่ระบุว่าได้ฝากข้าวไว้ที่คลังดังกล่าว1แสนกระสอบหรือประมาณ 1 หมื่นตันตามความจุของคลัง เบื้องต้นทราบว่าคลังดังกล่าวต้องส่งสินค้ากระจายไปหลายจังหวัด ซึ่งต้องตรวจสอบอีกว่าจำนวนข้าวที่เหลือกระจายไปอยู่ที่ใด  โดยโครงการรับจำนำข้าวถือเป็นโครงการสำคัญถูกตรวจสอบเป็นคดีความ

ทั้งนี้ หลังตรวจสอบพบว่าไม่มีข้าวส่งไปปลายทางแต่มีการทำเอกสารส่งและรับข้าว อคส.จึงแจ้งความดำเนินคดีกับหัวหน้าคลังสินค้า ในส่วนของป.ป.ท.ได้สั่งการให้ตรวจสอบเส้นทางข้าวจำนวน 1แสนกระสอบที่ถูกเก็บไว้กับโกดังศิริวรรณ 2 ซึ่งรับฝากข้าวจำนวนดังกล่าวสูญหายไปแล้ว 6,000 ตัน ส่วนที่เหลือสูญหายไปด้วยหรือถูกระบายไปยังจุดใด ซึ่งคดีที่จ.นครสวรรค์ ป.ป.ท.ตั้งอนุไต่สวนเป็นคดีใหม่ทำให้ขณะนี้มีสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มจาก 987 สำนวนเป็น 990 สำนวน และยังมีคดีรอรับเพิ่มจากตำรวจอีก 9 สำนวน

ด้านพล.ต.ท.ไกรบุญ  ทรวดทรง ประธานกรรมการอคส.ว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อให้เห็นแผนประทุษกรรมที่อคส.จะใช้เป็นแนวทางป้องกันทุจริตไม่ให้เกิดขึ้นอีก โเยจะเริ่มตรวจตั้งแต่สถานที่ตั้งมีความเหมาะสมหรือไม่  เช่น เส้นทางเข้าออกที่ลึกจากถนนใหญ่ สภาพโกดัง การนำข้าวเข้าออก   สำหรับหัวหน้าและเจ้าหน้าที่คลัง อคส.แจ้งความดำเนินคดีทั้งหมดแล้ว

สำหรับกรณีดังกล่าวอคส.ได้นำข้าวไปฝากที่โกดังกลาง 14 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์  กำแพงเพชร  สุรินทร์ พิจิตร ชัยนาท พิษณุโลก เพชรบูรณ์  สระบุรี อุบลราชธานี ลพบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม อุทัยธานี และเชียงใหม่   คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนล้านบาท โดยมี 4 จังหวัดที่มีความเสียหายสูงสุดหลักหมื่นล้านบาท ประกอบด้วย จ.นครสวรรค์ เป็นถูกดำเนินคดีมากที่สุด 201 คดี ความเสียหายกว่า 25,000 ล้านบาท รองลงคือกำแพงเพชร มี 102 คดี เสียหายกว่า15,000 ล้านบาท สุรินทร์ มี 94 คดี เสียหายกว่า 13,000ล้านบาท และพิจิตร มี 60 คดี เสียหาย 12,000 ล้านบาท

ขณะที่แยกเป็นเขตพื้นที่จะพบว่าป.ป.ท.เขต 6 เกิดความเสียหายรวมเกินครึ่งเมื่อเทียบกับมูลค่าความเสียทั้งหมดกว่า 1 แสนล้าน  ในพื้นที่เขต 6 มี 507 คดี เสียหายกว่า 66,000 ล้านบาท ความเสียหายกระจายในพื้นที่ 8 จังหวัดประกอบด้วย กำแพงเพชร นครสวรรค์  พิจิตร  พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี

พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจโกดังบริษัท สิงห์โตทองฯ ว่าโกดังดังกล่าวเคยถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการตรวจสอบข้าวชุดของม.ล.ปนัดดา  ดิศกุล เมื่อปี 2557 โดยตรวจพบว่ามีการนำข้าวขาวมาล้อมกองข้าวเหนียว จากการตรวจสอบอคส.ได้แจ้งความไปแล้วกว่า 700 สำนวน มีเพียงโกดังดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ทราบข้อเท็จจริงแต่ไม่ยอมเข้าแจ้งความดำเนินคดี วานนี้(31 พ.ค.)จึงได้มอบฝ่ายกฏหมายเข้าแจ้งความที่กองปราบฯหลังจากนี้จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอาญาทุกราย ส่วนกรณีที่เจ้าของคลังและเจ้าหน้าที่อคส.และเซอร์เวย์เนอร์พยายามแก้ตัวว่าข้าวที่นำมาเก็บยังไม่ได้ทำสัญญา เจ้าของโกดังก็ยังไม่ได้รับค่าปรับปรุงสภาพข้าว เป็นเพียงข้ออ้าง แต่ทุกคนยอมรับในข้อเท็จจริงแล้วว่ามีข้าวนำเข้ามาจัดเก็บ เม้อรู้ว่ามีการกนะทำผิดแต่นิ่งเฉยอยู่เป็นปี หลังเกิดเหตุไฟไหม้ก็คัดแยกข้าวไปวางกองภายนอกอ้างรอเคลมประกันเพื่อจ่ายคืนค่าเสียหายให้อคส.ก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบว่าปฏิบัติไปตามขั้นตอนหรือไม่

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการแจ้งความของเจ้าหน้าที่อคส.เพิ่งดำเนินการก่อนเพียง 1 วันก่อนป.ป.ท.ลงพื้นที่ตรวจสอบ สำหรับสภาพข้าวภายในโกดังที่มีจำนวนมากพบว่าอยู่ในสภาพเายหายทั่งหมด เพราะถูกทิ้งไว้ ไม่มีการรมยาและปรับปรุงคุณภาพข้าวตามกำหนดเวลา ทำให้เดิมเสียหายเพียงการทุจริตนำข้าวเจ้าล้อมข้าวเหนียว  แต่เมื่อไม่มีการดูแลตามขั้นตอนทำให้ข้าวกลับเสียหายทั้งหมด  คาดว่าเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 223 ล้านบาท

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ