บอร์ดขสมก.ไฟเขียวอีทิคเก็ต1,665 ล้านบาท

เผยเอกชน 12 รายชิงเค้กเอ็นจีวี เบสท์รินร่วมซื้อซองประกวดราคาด้วย เคาะราคาอีวีสูงกว่า 10 ล้านบาทเตรียมขายซองปลายเดือนนี้

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงการคมนาคม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ (อีทิคเก็ต) บนรถโดยสารประจำทาง 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 121.59 ล้านบาท จากราคากลาง 1,786.59 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 5 ปี ซึ่งบริษัทที่ชนะการประมูลคือ บมจ. ช ทวี (CHO) คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ทันทีเมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาร่างสัญญาแล้วเสร็จ โดยตามสัญญาระบุว่าบริษัทคู่สัญญาต้องนำรถล็อตแรก 100 คัน ที่ติดตั้งระบบที่ใช้สแกนบัตรโดยสารและกล่องเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ภายใน 120 วัน ส่วนล็อตที่ 2 จำนวน 700 คัน ทยอยติดตั้งระบบที่ใช้สแกนบัตรโดยสารก่อน  ให้ครบภายในวันที่ 1 ต.ค. 60 หรือภายใน180 วัน ภายหลังทำสัญญา ก่อนทยอยติดตั้งกล่องเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ และล็อตที่ 3 จำนวน 1,800 คัน ภายใน 360 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนด้านความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวีจำนวน 489 คัน นั้นหลังจากขายซองเอกสารประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 25-31 พ.ค. พบว่ามีเอกชนสนใจซื้อซองประกวดราคาทั้งหมด 12 ราย ประกอบด้วย ดังนี้  1.บริษัทแม่โขงเทคโนโลยี จำกัด 2.บริษัทเค.แอนด์ คิว.แอสโซซิเอทส์จำกัด 3.บริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน) 4.บริษัทไทยเทคโนโลยีแอนด์ เดเวลลอปเมนท์จำกัด 5.บริษัทรังสรรค์การท่องเที่ยวจำกัด 6.บริษัทเจพีเอเชียโกลบอลจำกัด 7.บริษัทพีเอสเค คอนซัลแทนส์จำกัด 8.กิจการร่วมค้า เจวีซีซี 9.บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปจำกัด 10.บริษัทแสงเจริญทูลส์เซ็นเตอร์จำกัด 11.บริษัทไทยเจริญยางบริการจำกัด และ 12.บริษัทไทยบัสกลการจำกัด  จากนั้นจะเปิดรับซองคุณสมบัติและข้อเสนอด้านเทคนิคในวันที่ 12 มิ.ย. แจ้งผลการคัดเลือกผู้มีสิทธิเสนอราคาวันที่ 19 มิ.ย. เปิดให้เอกชนเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) วันที่ 26 มิ.ย.จากนั้นจะสรุปผลการประมูล และเสนอผู้อำนวยการ ขสมก. วันที่ 27 มิ.ย. นำเสนอคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. วันที่ 28 มิ.ย. ลงนามสัญญาเดือน ก.ค. และส่งมอบรถโดยสารภายในวัน 90 วัน หรือเดือน ต.ค. นี้

สำหรับประเด็นด้านราคาโครงการดังกล่าวที่บริษัทเบสท์รินกรุ๊ปจำกัดเคยชนะประมูลด้วยวงเงินวงเงิน 3,387 ล้านบาท จึงส่งผลให้ผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้ต้องให้เท่ากับบริษัทที่เคยชนะประมูลหรือไม่ คาดว่าจะได้ขอสรุปภายในวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเปิดซองประกวดราคาโครงการ ขณะที่โครงการจัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้า(อีวี) จำนวน 200 คันนั้น อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดคุณสมบัติของตัวรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเติม อาทิ ราคาแบตเตอรี่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพในปัจจุบัน ซึ่งบอร์ดขสมก.ได้ข้อสรุปว่า ราคารถเมล์ไฟฟ้าจะตกคันละประมาณ 10 ล้านกว่าบาท ไม่รวมภาษีการนำเข้า หลังจากนี้เปิดประชาพิจารณ์ขึ้นเว็บครั้งที่ 2 เร็วๆ นี้ และเปิดขายซองประกวดราคาได้ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มิ.ย.