posttoday

มิตซูบิชิลุยแอลพีจี

29 พฤษภาคม 2560

ตลาดแอลพีจีแข่งเดือด ผู้ค้ารายใหญ่ลดราคาให้พ่อค้าคนกลาง มิตซูบิชิ ลุยอีกราย มั่นใจอนาคตราคาขายปลีกลด

ตลาดแอลพีจีแข่งเดือด ผู้ค้ารายใหญ่ลดราคาให้พ่อค้าคนกลาง มิตซูบิชิ ลุยอีกราย มั่นใจอนาคตราคาขายปลีกลด

แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เปิดเผยว่า หลังจากภาครัฐเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจีเพื่อจำหน่ายในประเทศตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2560 จากเดิมมีผู้นำเข้ารายเดียว คือ บริษัท ปตท. และภายหลังบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ ได้ขอเป็นผู้นำเข้าเพิ่ม ส่งผลให้ตลาดแอลพีจีแข่งขันด้วยการลดราคาขายให้กับผู้ค้าคนกลางราว 30-40 สตางค์/กก. แม้จะยังไม่มีผลต่อราคาขายปลีก แต่อนาคตเชื่อว่าจะสะท้อนไปยังราคาขายปลีกแน่นอน

“ขณะนี้ตลาดแข่งขันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ สยามแก๊สฯ ลดราคาลง 10 สตางค์/กก. ต่อมา ปตท.แข่งโดยลดราคา 30 สตางค์/กก. พ่อค้าคนกลางได้เปรียบเพราะซื้อได้ราคาถูก แต่ที่น่าจับตาล่าสุดทราบว่ามิตซูบิชิเข้ามาขอจดทะเบียนเป็นผู้ค้าแอลพีจี มาตรา 7 แล้ว เชื่อว่าผู้ประกอบการเดิมต้องปรับตัว”แหล่งข่าวเปิดเผย

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) ผู้ประกอบธุรกิจเทรดดิ้งรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ได้ยื่นขอจดทะเบียนรับรองเป็นผู้ค้าก๊าซ มาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 มายัง ธพ. เพื่อจะนำเข้าก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ในรูปแบบค้าส่งให้กับผู้ค้า มาตรา 7 ในไทย ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาอนุมัติได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้

สำหรับมิตซูบิชิเป็นผู้ค้าน้ำมันและก๊าซแอลพีจีรายใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน การที่เข้ามายังตลาดไทยเพราะเห็นว่าอนาคตความต้องการนำเข้าแอลพีจีของไทยจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงวิกฤตพลังงานปี 2564-2565 ขณะเดียวกันหากน้ำมันราคาแพง ความต้องการแอลพีจีจะเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ มิตซูบิชิถือเป็นผู้เล่นรายที่ 3 ในการเปิดเสรีนำเข้าแอลพีจี และจะมีส่วนสำคัญให้ตลาดแอลพีจีมีการแข่งขันมากขึ้น ขณะเดียวกัน ธพ.ยังไม่ทราบรายละเอียดแผนการดำเนินธุรกิจแอลพีจีของมิตซูบิชิ แต่จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่าอาจจะใช้คลังของผู้ค้าในไทยและมีแผนจัดตั้งคลังถาวรในอนาคต

ด้านกรณีการออกประกาศกำหนดให้ผู้ค้าแอลพีจี มาตรา 7 ต้องเพิ่มสำรองแอลพีจีตามกฎหมาย จากปัจจุบัน 1% จำนวน 3 วันครึ่ง เป็น 2.5% จำนวน 9 วัน โดยจะมีผลบังคับวันที่ 1 ม.ค. 2565 นั้น จะเป็นไปตามแผนเดิม หลังจากได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปแล้ว 2 ครั้ง