ไทยเร่งส่งออกรังนกไปจีน

กรมปศุสัตว์เร่งผลักดัน การส่งออกรังนกไทยไปจีน

นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์  กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเร่งผลักดัน การส่งออกรังนกไปจีน แต่การที่จะส่งออกรังนกไทยไปจีนได้ต้องผ่านการรับรองจากสองหน่วยงานคือ AQSIQ และ CNCA ซึ่งมีข้อกำหนดในเรื่องการขึ้นทะเบียนแหล่งผลิตรังนกต้องมีการจัดการระบบการป้องกันโรคไข้หวัดนกและโรคนิวคาสเซิล มีแผนการตรวจสอบสารตกค้าง โลหะหนัก รวมถึงที่ศูนย์รวบรวมรังนก ต้องมีระบบ GMP และ HACCP

ซึ่งจากผลการเร่งรัดผลักดันอย่างต่อเนื่องของกรมปศุสัตว์ ส่งผลให้หน่วยงาน CNCA ได้ขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกรังนกและผลิตภัณฑ์ของไทยแล้ว 2 แห่ง ในส่วนของ กระทรวงควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (AQSIQ) ซึ่งเคยมาตรวจแล้วและยอมรับมาตรการควบคุมกำกับโดยกรมปศุสัตว์ เพียงแต่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับขบวนการผลิตรังนกแดง ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ส่งข้อมูลรังนกแดงให้หน่วยงาน AQSIQ เพิ่มเติมแล้วและได้ทำหนังสือเชิญAQSIQ มาตรวจรับรองอีกครั้งในเร็ววันนี้

นายสรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะโฆษกกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้ให้การรับรองและขึ้นทะเบียน โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เพื่อการส่งออก 4 แห่ง ศูนย์รวบรวมรังนก 5 แห่ง แหล่งผลิตรังนก (ถ้ำสัมปทาน) 138 แห่ง โดยไทยสามารถส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์รังนกไปยังต่างประเทศคิดเป็นมูลค่าราว 552 ล้านบาทในปี 2559 และคาดการณ์ว่าหากการเจรจาขอเปิดตลาดสินค้ารังนกและผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีนของไทยประสบความสำเร็จ จะช่วยเพิ่มยอดการส่งออกสินค้ารังนกและผลิตภัณฑ์ของไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 5 - 10 เปอร์เซ็นต์

สำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความประสงค์ขอส่งสินค้ารังนกและผลิตภัณฑ์ไปสาธารณรัฐประชาชนจีน สามารถสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบการผลิตสินค้าดังกล่าวผ่านทางสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ (สพส.) กรมปศุสัตว์ เพื่อประสานงานต่อไปยังหน่วยงาน CNCA ในการขอขึ้นทะเบียนโรงงานต่อไป