posttoday

สั่งรื้อแผนฟื้นฟูขสมก.ใหม่

06 พฤษภาคม 2560

ขสมก.ทบทวนแผน ฟื้นฟูกิจการใหม่ หลังเจอปมรถเมล์เอ็นจีวี ตั้งเป้าปี 2565 ต้องมีกำไร ดึงอี-ทิคเก็ตร่วมใช้ลดค่าใช้จ่าย

ขสมก.ทบทวนแผน ฟื้นฟูกิจการใหม่ หลังเจอปมรถเมล์เอ็นจีวี ตั้งเป้าปี 2565 ต้องมีกำไร ดึงอี-ทิคเก็ตร่วมใช้ลดค่าใช้จ่าย

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.ได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในฐานะที่ปรึกษาด้านจัดทำแผนฟื้นฟูองค์กร ไปทบทวนแผนดังกล่าวมาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการรถเมล์เก่าและรถเมล์ใหม่ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในขั้นนโยบาย ภายหลังจาก ขสมก.ไม่สามารถจัดหารถเมล์โดยสารเอ็นจีวี 489 คันได้ตามแผน

ทั้งนี้ การจัดทำแผนใหม่ระยะ 5 ปี (2560-2564) จะต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับแผนการจัดหารายได้ในระยะ 5 ปีควบคู่ไปด้วย เพื่อนำมาบรรจุในแผนฟื้นฟูฉบับเต็มต่อไป โดยคาดว่าจะเสนอแผนฟื้นฟูฉบับปรับปรุงให้บอร์ด ขสมก.พิจารณาได้ในการประชุมครั้งถัดไป วันที่ 31 พ.ค.นี้

สำหรับแผนบริหารรถเมล์โดยสารสาธารณะรูปแบบใหม่ ประกอบด้วย การรับรถเมล์ใหม่รวม 3,450 คัน และการปลดระวางรถเมล์เก่ารวม 2,753 คัน แบ่งเป็นแผนการรับรถใหม่ในปี 2560 จำนวน 689 คัน แยกเป็นรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน และรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน ส่วนในปี 2561 จำนวน 700 คัน ปี 2562 จำนวน 600 คัน ปี 2563 จำนวน 700 คัน และ ปี 2564 จำนวน 761 คัน ขณะที่แผนการปลดระวางรถเมล์เก่า แบ่งเป็นการปลดรถเก่าปี 2560 จำนวน 107 คัน ปี 2561 จำนวน 501 คัน ปี 2562 จำนวน 624 คัน ปี 2563 จำนวน 699 คัน และปีสุดท้าย 2564 จำนวน 852 คัน

นอกจากนี้ ในระยะ 5 ปีนี้ จะมีการติดตั้งระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ทิคเก็ต) มาใช้แทนพนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถบางส่วน ดังนั้น ในปี 2565 ขสมก. จะเปิดโครงการ Early-Retire ให้พนักงานสมัครใจลาออก แต่ขณะนี้ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน ขสมก.จะเร่งนำอู่รถเมล์ 2 แห่งที่มีศักยภาพคือ อู่บางเขนและตลาดมีนบุรี มาให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่อไป หวังเพิ่มรายได้ให้ ขสมก.

"ตามแผนฟื้นฟูระยะ 5 ปี ตั้งเป้าปี 2565 ขสมก.จะต้องเป็นปีแรกที่เริ่มมีกำไร เพราะจะมีการนำรถซึ่งมีต้นทุนต่ำ และระบบอี-ทิคเก็ตมาใช้ ส่วนผลการดำเนินงานล่าสุดของ ขสมก.นั้น ในปี 2559 ยังขาดทุนรวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท และมีหนี้สินสะสมรวมทั้งสิ้น 1.03 แสนล้านบาท" นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายต่อตระกูล ยมนาค ผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงสัญญา คุณธรรมในโครงการประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีและรถเมล์ไฟฟ้าของ ขสมก. กล่าวว่า การจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 200 คันนั้น มีข้อเสนอให้มีการทบทวนตัวเลขราคากลาง โดยเฉพาะวิธีการได้มาของราคากลางยังขาดความสมเหตุสมผล ในขณะที่ราคากลางที่ตั้งไว้เดิมนั้น เห็นว่าจะต้องมีการพิจารณาปรับลดลง เนื่องจากต้นทุนของแบตเตอรี่ รถไฟฟ้ามีราคาที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ใน ขณะที่ต้นทุนการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าก็มีทิศทางที่ลดลง ดังนั้นจะต้องพิจารณาปรับลดราคากลางลงได้อีก

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีรอบใหม่จำนวน 489 คัน โครงการการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน มูลค่า 4,021 ล้านบาท ขึ้นรับฟังความคิดเห็นบนเว็บไซต์แล้ว โดยตั้ง เป้าหมายว่าจะเปิดขายเอกสารการประมูลในเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือน ก.ค.นี้ และทยอยส่งมอบรถได้ในวันที่ 31 ต.ค.

อย่างไรก็ตาม รูปแบบจะเป็นการจัดหารถเมล์นำเข้าจากต่างประเทศเนื่องจากมีเงื่อนเวลาจำกัด แต่ในล็อตถัดไป ขสมก.จะพิจารณาจัดซื้อรถที่ ผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งรถเมล์เอ็นจีวีและรถไฟฟ้า ขณะที่การประมูลโครงการเช่าอี-ทิคเก็ต วงเงิน 1,786 ล้านบาทนั้น ได้ผู้ชนะการประมูลแล้วคือกิจการร่วมค้า บริษัท ช ทวี หรือ CHO และพันธมิตรจากเกาหลี