"บิ๊กฉัตร"สั่งสอบข้อเท็จจริงส่วยเรือประมง
รมว.เกษตรฯสั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงหลังมีข่าวเจ้าหน้าที่รับส่วยเรือประมงเป็นเรื่องเก่าหรือใหม่
รมว.เกษตรฯสั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงหลังมีข่าวเจ้าหน้าที่รับส่วยเรือประมงเป็นเรื่องเก่าหรือใหม่
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงข่าวที่มีการนำเสนอเรื่องเจ้าหน้าที่รับส่วยเรือประมงเป็นเรื่องเก่าหรือเรื่องใหม่ เนื่องจากก่อนหน้า คสช.ได้มีคำสั่งข้าราชการพลเรือน ตำรวจและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ตามข่าวไปแล้ว ทั้งนี้ให้รายงานกลับมาภายใน 5 วัน ซึ่งได้หารือร่วมกับ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเช่นกัน ให้ส่งข้อมูลที่มาตนโดยตรง หรือ ผบ.ทร. หรือ อธิบดีกรมประมง จะปิดเป็นความลับเพื่อไม่ให้กระทบผู้กล่าวหา หากพบผิดจะดำเนินการถึงที่สุดทุกกรณี
"การรับส่วย ถือว่าเป็นเรื่องของบุคคล ไม่อยากให้นำมาปนกับเรื่องการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุมหรือไอยูยู ที่รัฐบาลกำลังดำเดินการแก้ไขอย่างเต็มที่ ซึ่งควรแยกแยะออกจากกันกับการที่ทุกหน่วยงานพยายามอย่างเต็มที่จะรักษาทรัพยากรไว้ให้ถึงรุ่นลูกหลานและสินค้าประมงไทยได้รับการยอมรับจากสากล อย่างไรก็ตามเข้าใจว่าชาวประมงอาจเครียดจากมาตรการของรัฐบาลที่แก้ไขไอยูยู จึงได้มีการระบายหรือพูดจาอะไรออกมา แต่ขอให้เข้าใจว่าทุกมาตรการที่ทำเพื่อความยั่งยืนของประมงไทย"พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
ก่อนหน้าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ 52/2559 การ ลงวันที่ 2 ก.ย.59 เรื่องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมครั้งที่ 7 โดยดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องการทุจิตประมง ในพื้นที่เกี่ยวข้อง 6 จังหวัด ได้แก่ ตราด สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธุ์ ชุมพร พังงา นครศรีธรรมราช เนื่องจากถูกร้องเรียนหรือกล่าววหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นในพื้นที่ของตน หรือมีการทุจริต ประพฤติ มิชอบ หรือดำเนินการ หรือไม่ดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่จนเกิดความเสียหายกับทางราชการและมีมูลอันสมควรตรวจสอบ
การร้องเรียนมีทั้งรายชื่อ หลักฐาน คลิปเสียง ภาพถ่าย การเรียกรับสินบน 600,000 บาทของเจ้าหน้าที่จังหวัดหนึ่งเพื่อแลกกับใบอนุญาตการทำประมง ทำให้ คสช.ได้มีคำสั่งดังกล่าว รวมทั้งได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนบุคคลดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีข้าราชการและพลเรือน รวม 13 คน ตำรวจ 6 นาย เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น 2 คน ทั้งหมด 21 คนยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งทั้ง 6 จังหวัดสอดคล้องกับข้อมูลของกองทัพเรือ ซึ่งได้ติดตามกลุ่มผู้กระทำผิดกลุ่มนี้แต่ต้นจึงนำมาซึ่งการออกคำสั่งของคสช. โดยผู้มีรายชื่อตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ได้ถูกระงับการปฎิบัติราชการในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯและกรมประมง ได้สอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะผู้กระทำผิดอาจขุ่มขู่ผู้ถูกเรียกรับสินบน