posttoday

เตรียมเคาะค่าไฟงวดใหม่ คาดจ่อขึ้น10สต.

19 เมษายน 2560

กกพ.เตรียมเคาะราคาค่าไฟงวดใหม่ 19 เม.ย.นี้ คาดจ่อขึ้นอีก 10 สตางค์/หน่วย

กกพ.เตรียมเคาะราคาค่าไฟงวดใหม่ 19 เม.ย.นี้ คาดจ่อขึ้นอีก 10 สตางค์/หน่วย

รายงานข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แจ้งว่า ในวันที่ 19 เม.ย. 2560 นี้ กกพ.จะประชุมพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะเรียกเก็บบิลค่าไฟกับประชาชนรอบใหม่ (พ.ค.-ส.ค.) 2560 คาดว่ามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 10 สตางค์/หน่วย ซึ่งน้อยกว่าต้นทุนแท้จริงที่จะต้องปรับขึ้น 20 สตางค์/หน่วย แต่หากปรับขึ้นตามต้นทุนดังกล่าว อาจเป็นอัตราที่สูงเกินไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมจำเป็นอาจใช้ทางเลือกให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกรับภาระไปก่อน รวมทั้งต้องพิจารณาว่าจะมีวงเงินใดเข้ามาเพิ่มเติมได้หรือไม่ เช่น การลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผนทั้งของ 3 การไฟฟ้า คือ กฟผ. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และเอกชน เนื่องจากวงเงินเดิมมีไม่เพียงพอ จึงต้องรอให้ที่ประชุมพิจารณาผลกระทบทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการ กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า ยอมรับว่าค่าเอฟทีมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.) 2560 ที่ค่าเอฟทีอยู่ที่ 37.29 สตางค์/หน่วย แต่จะเป็นอัตราเท่าใดนั้นคงจะต้องรอผลการพิจารณาจากที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าไฟฟ้าอาจต้องปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยหลักราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น เพราะเป็นราคาที่สะท้อนสูตรราคาก๊าซฯ ที่อิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน เป็นช่วงจังหวะขาขึ้นของราคาก๊าซฯ มีแนวโน้มว่าราคาจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงสิ้นปีนี้

“ทิศทางค่าไฟฟ้าอาจต้องปรับเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นจริง แต่จะเป็นเท่าไหร่ต้องรอผลการประชุมของ กกพ.ก่อน”นายวีระพล กล่าว 

ขณะเดียวกัน ยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้นอัตราค่าไฟรอบถัดไป คือ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท หากมีทิศทางแข็งค่าจะมีผลดีต่อต้นทุนที่ลดต่ำลงในภาพรวมในการจัดซื้อเชื้อเพลิงและการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่งวดนี้พบว่าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวคงที่ในระดับ 35 บาท/เหรียญสหรัฐ เช่นเดียวกับงวดที่ผ่านมา

“งวดที่ผ่านมา กกพ.ได้กันเงินไว้ที่เหลือจากค่าความพร้อมจ่าย (เอพี) จากเอกชนประมาณ 2,200 ล้านบาท เพื่อนำมาดูแลค่าเอฟทีงวดใหม่นี้ คิดเป็นการลดค่าไฟประมาณ 3 สตางค์/หน่วยเท่านั้น หากนำมาชดเชยงวดใหม่นี้จะมีผลเล็กน้อย เพราะปัจจัยหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญ”นายวีระพล กล่าว