เคาะ 6แนวทางคุมคอร์รัปชั่นป้องล็อกสเปก

ครม.ไฟเขียว 6 แนวทางจัดซื้อจัดจ้าง คุมเข้มแก้คอร์รัปชั่น ทีโออาร์ล็อกสเปก

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2560 เห็นชอบแนวทางการปรับระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐทั้งในส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งรายงานความคืบหน้าในการศึกษาความเป็นไปได้การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับอายุความตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ในอดีตเกิดจากหลายส่วน เช่น การกำหนดราคากลาง การกำหนดขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ไม่ชัดเจน

สำหรับแนวทางปฏิบัติประกอบ ไปด้วย 1.ปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดทีโออาร์ไม่ชัดเจนหรือกำหนดคุณลักษณะเฉพาะเป็นการล็อกสเปกและกำหนดราคาสูงเกินความเป็นจริง โดยเพิ่มเติมด้วยการให้คณะกรรมการความร่วมมือเพื่อป้องกัน การทุจริตตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อสอบทานราคากลางงานก่อสร้าง 2.แก้ไขปัญหาการสมยอมราคาในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ การฮั้วประมูล ให้เพิ่มกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร้าง ให้มีอำนาจหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการ ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อดำเนินการไปก่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน ส.ค.นี้ และให้กรมบัญชีกลางกำหนดแนวทางการประเมินผู้ประกอบการ โดยพิจารณาจากความสามารถของคู่สัญญาในการปฏิบัติงานตามสัญญาเพื่อให้ประกอบการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามายื่นเสนอหรือเข้าทำสัญญากับหน่วยงานภาครัฐในครั้งต่อไป

ส่วนที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาจัดซื้อผ่านคนกลาง (Agent) มีแนวทางว่าหากเป็นการซื้อสินค้าที่มีความซับซ้อนหรือเทคนิคเฉพาะและมีผู้ผลิตสินค้านั้นๆ น้อยรายให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อกับผู้ผลิตโดยตรงโดยไม่ให้ผ่านผู้แทนจำหน่าย เว้นแต่มีเหตุผลจำเป็นแต่ต้องชี้แจงเหตุผลแห่งความจำเป็นนั้น 4.เป็นแนวทางการกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ให้มีการบริหารจัดการที่โปร่งใส ในส่วนนี้จะดำเนินการผ่านการจัดตั้งหรือร่วมทุนและกำกับดูแลบริษัทในเครือรัฐวิสาหกิจที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้กำหนดไว้แล้ว

ส่วนที่ 5 แนวทางการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง โดยกรมบัญชีกลางวางแนวทาง และส่วนที่ 6 การกำหนดแนวทางเพื่อกำกับไม่ให้ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ รับทรัพย์สิน สิ่งของหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท