posttoday

ตรึงราคาก๊าซฯพร้อมเปิดเสรี

11 มกราคม 2560

กบง.คงราคาแอลพีจีเดือน ม.ค.หลังเปิดเสรีเดือนแรก ดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ จ่ายชดเชย 440 ล้าน/เดือน

กบง.คงราคาแอลพีจีเดือน ม.ค.หลังเปิดเสรีเดือนแรก ดึงเงินกองทุนน้ำมันฯ จ่ายชดเชย 440 ล้าน/เดือน

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ประจำเดือน ม.ค. 2560 แม้ต้นทุนแอลพีจีตลาดโลกจะปรับขึ้น ภายหลังมีการเปิดเสรีแอลพีจี ส่งผลให้ราคาคงเดิมที่ 20.29 บาท/กิโลกรัม (กก.) โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปเพิ่มอัตราชดเชยราคาอีก 4.69 บาท/กก. เป็น 4.98 บาท/กก.

ทั้งนี้ สถานการณ์ต้นทุนราคา แอลพีจีตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 69 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ราคาอยู่ที่ 465 เหรียญสหรัฐ/ตัน ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าลงในเดือน ธ.ค. 2559 ประมาณ 0.47 บาท/เหรียญสหรัฐ อยู่ที่ 35.98 บาท/เหรียญสหรัฐ ซึ่งผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว ทำให้กองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของ แอลพีจีเดือน ม.ค. 2560 มีรายจ่ายประมาณ 440 ล้านบาท/เดือน

ด้าน นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า หลังจากมีการเปิดเสรีการนำเข้าก๊าซแอลพีจีเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีเอกชน 2-3 ราย แสดงความสนใจนำเข้า แอลพีจี โดยอยู่ระหว่างทำสัญญาซื้อขายกับผู้ผลิตในต่างประเทศ คาดว่าระยะแรกจะนำเข้าในปริมาณไม่มาก โดยในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จะนำเข้าประมาณ 2-3 หมื่นตัน/เดือน ตามความต้องการใช้ในประเทศ หากรัฐบาลกำหนดต้นทุนนำเข้าต่ำกว่าแอลพีจีที่ผลิตในประเทศจะจูงใจให้เอกชนนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดการค้าแอลพีจีในประเทศมากขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้ก๊าซแอลพีจีในราคาถูกลง

นอกจากนี้ นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า กบง.ได้ทบทวนต้นทุนการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก เพื่อจูงใจให้ผู้ผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติกผลิตและจำหน่ายให้โรงกลั่น โดยเห็นชอบหลักเกณฑ์การคำนวณอัตราเงินชดเชย ให้แก่โรงกลั่นน้ำมันที่รับซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตได้จากการแปรรูปขยะพลาสติกโดยกำหนดอัตราเงินชดเชยที่ 14.55 บาท หักจากราคาน้ำมันดิบ มีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 2560