posttoday

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยจดทะเบียนกิจการใหม่ก.ค.เพิ่ม9%

19 สิงหาคม 2559

จดธุรกิจใหม่ก.ค. 4,919 ราย ลด 9% เหตุวันหยุดยาว ส่วนจดเจ๊งลด 9% เช่นกัน “พาณิชย์” ยันครม.ให้ความสำคัญกฎหมายจัดตั้งนิติบุคคลคนเดียว

จดธุรกิจใหม่ก.ค. 4,919 ราย ลด 9% เหตุวันหยุดยาว ส่วนจดเจ๊งลด 9% เช่นกัน “พาณิชย์” ยันครม.ให้ความสำคัญกฎหมายจัดตั้งนิติบุคคลคนเดียว

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนก.ค.  2559 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศจำนวน 4,919 ราย ลดลง 9% เทียบกับก.ค. 2558 และลดลง 17% เทียบกับมิ.ย. 2559 โดยมีทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่มูลค่า 1.54 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) 2559 มีจำนวน 3.67 หมื่นราย ลดลง 0.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

“การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนก.ค.ที่ลดลง เป็นเพราะมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ซึ่งมีวันทำการเพียง 18 วัน จึงส่งผลกระทบต่อยอดการจดทะเบียน ส่วนภาพรวมของการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ช่วง 7 เดือนนั้น ถือว่าใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คือลดลง 0.6% เท่านั้น ถือว่าตัวเลขยังเป็นปกติ” น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว

สำหรับการจดทะเบียนนิติบุคคลเลิกในเดือนก.ค. 2559 มีจำนวน 1,405 ราย ลดลง 9% เทียบกับก.ค. 2558 แต่เพิ่มขึ้น 1% เทียบกับมิ.ย. 2559 โดยทุนจดทะเบียนเลิก 1.50 หมื่นล้านบาท ซึ่งธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด คือ ธุรกิจค้าสลาก จำนวน 158 ราย คิดเป็น 11% ส่วนสาเหตุส่วนใหญ่เลิกเนื่องจากธุรกิจไม่ได้ประกอบกิจการ ส่งผลให้การจดทะเบียนเลิกช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) 2559 มีจำนวน 8,239 ราย ลดลง 2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม กรมคาดว่าในช่วง 5 เดือนหลัง (ส.ค.-ธ.ค.) จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลปี 2559      น่าจะมีจำนวนไม่น้อยกว่าปี 2558 เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่กระทรวงการคลังได้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีให้ยกเว้นภาษีจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นบุคคลธรรมดาให้มาจดทะเบียนนิติบุคคลมากขึ้น  อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐออกมาช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี  ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอี กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ช อัพ) และกลุ่มที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยี และมาตรการภาษีพี่ช่วยน้อง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี  ซึ่งสอดคล้องกับภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประกาศตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว 3.5% ทำให้กรมยังคงตั้งเป้ามียอดการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ทั้งปีอยู่ที่ 6-6.5 หมื่นรายเช่นเดิม

ด้านการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ที่กรมได้เปิดให้บริการจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2559 พบว่าในเดือนก.ค. มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจจำนวน 4.59 หมื่นคำขอ มูลค่า 2.34 แสนล้านบาท แบ่งประเภททรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันได้ 2 ประเภท คือ สิทธิเรียกร้อง มูลค่า 2.07 แสนล้านบาท คิดเป็น  88%  แบ่งเป็น บัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่า 2 แสนล้านบาท คิดเป็น 85.5% สิทธิการเช่า มูลค่า 1,155 ล้านบาท คิดเป็น 0.5% อื่นๆ เช่น ลูกหนี้การค้า มูลค่า 5,268 ล้านบาท คิดเป็น 2.2%

สังหาริมทรัพย์ มูลค่า 2.76 หมื่นล้านบาท คิดเป็น  12%  แบ่งเป็น สินค้าคงคลัง/วัตถุดิบ มูลค่า 2.12 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 9.0% เครื่องจักร มูลค่า 4,592 ล้านบาท คิดเป็น 2.0% รถยนต์ มูลค่า 1,808 ล้านบาท คิดเป็น 0.8% และกรมได้ออกใบอนุญาตผู้บังคับหลักประกันแล้วจำนวน 88 ราย

น.ส.ผ่องพรรณ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์มีการนำร่างพ.ร.บ.จัดตั้งนิติบุคคลโดยคนเดียว พ.ศ... ออกจากการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากครม.ต้องการให้กรมกลับไปดูรายละเอียดร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะหลักสากลของกฎหมายที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่ใช่การยกร่างออก เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับการจดทะเบียนนิติบุคคลเดียวที่จะมีส่วนสนันสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

“ครม.ต้องการให้ไปปรับปรุงเหตุผลให้ทันสมัย และยังสนุนสนุนกฎหมายจัดตั้งนิติบุคคลคนเดียว และไม่ต้องนำไปร่วมกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะกระบวนการล่าช้า เพียงแต่ปรับเพิ่มเติมรายละเอียดและนำมาเสนอครม.ใหม่ อย่างประเทศเยอรมนีก็มีกฎหมายจัดตั้งนิติบุคคลเดียว ซึ่งพบว่ามีการมาจดทะเบียนคนเดียวสัดส่วนถึง 60% เทียบกับการจดทะเบียนแบบอื่น จึงเป็นกฎหมายที่สำคัญ”  น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว