posttoday

'แอร์เอเชีย' ต่อยอด สกัดร้านปลอดอากรรายใหม่

19 มิถุนายน 2559

หลายคนตั้งคำถามว่า กว่าจะมีวันนี้เส้นทางเศรษฐีอย่างวิชัยร่ำรวยมาจากอะไร ก่อนจะมาจับธุรกิจดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์

โดย...ทีมข่าวธุรกิจ-ตลาดโพสต์ทูเดย์

หลายคนตั้งคำถามว่า กว่าจะมีวันนี้เส้นทางเศรษฐีอย่างวิชัยร่ำรวยมาจากอะไร ก่อนจะมาจับธุรกิจดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ หรือไม่ คำตอบคือ ร้านค้าปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรี นับเป็นบ่อเงินบ่อทองสำคัญที่นำไปสู่การต่อยอดในการลงทุนด้านอื่นๆ

ความมั่งคั่งจากการเล่นหุ้นแบบซื้อมาขายไป ทำกำไรจากบิ๊กล็อตในหลายกรณี ก็เป็นอีกหนึ่งในเกมการเงินของวิชัย ซึ่งได้เห็นชัดๆ มาแล้วในกรณีซื้อหุ้นอาร์เอส โดยให้เหตุผลว่ามองเห็นโอกาสของธุรกิจบันเทิง แต่ภายในเวลา 2 เดือน ก็ขายทิ้งทำกำไร จนเมื่อถึงกรณีล่าสุด ไทยแอร์เอเชีย เจ้าพ่อคิง เพาเวอร์ ก็ให้เหตุผลว่า ซื้อเพราะไทยแอร์เอเชียสามารถต่อยอดธุรกิจได้ โดยเฉพาะการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวจีน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วิชัยจะถูกถามอย่างหนัก อย่างการซื้อไทยแอร์เอเชียครั้งนี้จะคล้ายกับกรณีอาร์เอสหรือไม่ แล้วก็ได้รับการยืนยันว่า การลงทุนในไทยแอร์เอเชียเป็นการลงทุนระยะยาวให้ครอบครัวแน่นอน

เมื่อเป็นเช่นนั้น หลายคนจึงตั้งคำถามว่า ทำไมต้องเป็นธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำอย่างไทยแอร์เอเชีย โดยก่อนจะวิเคราะห์ถึงประเด็นนี้ ต้องย้อนกลับมาดูฐานธุรกิจหลักอย่างธุรกิจดิวตี้ฟรีภายใต้แบรนด์ “คิง เพาเวอร์” โดยหากกล่าวว่า คิง เพาเวอร์ มีฐานที่มั่นคงในธุรกิจนี้ ก็ต้องยอมรับว่ามั่นคง ด้วยสายสัมพันธ์อันแนบแน่นที่มีกับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ทำให้ได้สัมปทานทำร้านดิวตี้ฟรีใน 5 สนามบิน ได้แก่ 1.สุวรรณภูมิ (อีก 4 ปีหมดสัญญา) 2.ดอนเมือง 3.เชียงใหม่ 4.ภูเก็ต และ 5.หาดใหญ่

แต่ในอนาคตก็มีความเสี่ยงไม่น้อยเช่นกัน ด้วยกระแสกดดันจากภาคเอกชนและหน่วยงานอิสระที่ตรวจสอบคอร์รัปชั่น อาจทำให้ท้ายที่สุด มีการเปิดจุดรับจ่ายสินค้าปลอดอากรสาธารณะ (Pick-up Counter) ได้จริงในหลายสนามบินนานาชาติ ที่ผู้ให้บริการธุรกิจดิวตี้ฟรีทุกรายใช้บริการได้อิสระ ก็มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ประกอบการ ดิวตี้ฟรีกลางเมือง (นอกสนามบิน) เกิดมากขึ้น ให้ลูกค้าซื้อสินค้าที่ร้านดิวตี้ฟรีกลางเมือง แล้วก็ไปรับสินค้าที่จุดพิคอัพ เคาน์เตอร์สาธารณะ ก็อาจทำให้คิง เพาเวอร์ มีโอกาสถูกชิงส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น

แน่นอนว่าการที่คิง เพาเวอร์ ทำธุรกิจนี้มานาน และกำลังจะมียอดขายแตะ 1 แสนล้านบาทในปีหน้า การถูกกินส่วนแบ่งตลาดไปบ้าง อาจไม่ใช่สิ่งที่น่าห่วง แต่ด้วยผู้สนใจเข้าสู่ธุรกิจดิวตี้ฟรีในเมืองก็เป็นยักษ์ใหญ่แห่งค้าปลีกที่ “บิ๊ก” และมีโครงข่ายโยงใยไม่น้อยไปกว่าคิง เพาเวอร์เลย และอาจจะมีความพร้อมในด้านทำเลที่ตั้งของสาขาที่เข้าถึงได้สะดวกมากกว่าด้วย

นั่นจึงเป็นหนึ่งในข้อสังเกตของคนในแวดวงธุรกิจว่า อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้วิชัยต้องขยับไปหาธุรกิจสายการบิน เรียกว่าไปรับคนซื้อจากหน้าประตูบ้าน ดึงมาซื้อสินค้าปลอดอากรที่คิง เพาเวอร์ ซึ่งหากคิดภายใต้โจทย์ที่ว่า คิง เพาเวอร์ ยังคงทำธุรกิจดิวตี้ฟรีเพียงรายเดียวในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกสนามบิน การมีธุรกิจสายการบินไว้ในครอบครองก็มีแต่ได้กับได้ สายการบินขนคนมาได้มากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีกับคิง เพาเวอร์ ทุกแห่งทั่วประเทศไทย

ขณะที่หากคิดจากโจทย์ที่ว่า คิง เพาเวอร์ ไม่ใช่ผู้เล่นรายเดียวในธุรกิจค้าปลีกปลอดอากรอีกต่อไป และธุรกิจนี้มีการแข่งขันอย่างเสรีทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต การมีสายการบินเป็นของตัวเองก็ยิ่งเป็นผลดีในแง่เชิงการกำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกันระหว่างไทยแอร์เอเชีย กับ คิง เพาเวอร์ ได้เต็มที่ เช่น การให้สิทธิประโยชน์แบบพิเศษกับคนที่บินไทยแอร์เอเชียในการช็อป คิง เพาเวอร์ เพื่อดึงให้ลูกค้าเลือกช็อปในคิง เพาเวอร์ มากกว่าเลือกไปช็อปร้านค้าปลอดอากรของเจ้าอื่น

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีน หากวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ของผู้ประกอบการค้าปลีกย่านแหล่งท่องเที่ยวของไทยทุกรายในเวลานี้ ไม่ว่าจะร้านค้าระดับกลางไปจนถึงร้านค้าระดับไฮเอนด์ ล้วนจับกลุ่มลูกค้าจีนเป็นหลัก เช่นเดียวกับที่คิง เพาเวอร์ ก็ให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้มาก จึงเตรียมเร่งสร้างคิง เพาเวอร์ ศรีวารี คอมเพล็กซ์ เฟส 2 ให้เสร็จก่อนต้นปีหน้า เพื่อจะปิดปรับปรุงคิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ คอมเพล็กซ์ (รางน้ำ) ให้เป็นโฉมใหม่ และเมื่อทั้งสองแห่งแล้วเสร็จ ก็จะแยกการทำตลาดชัดเจน โดยตั้งเป้าให้สาขาศรีวารี รับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกรุ๊ปทัวร์จีนเป็นหลัก ส่วนสาขารางน้ำรองรับกลุ่มลูกค้าท่องเที่ยวเองทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้าท่องเที่ยวไทยมีประมาณ 10 ล้านคน ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12-13 ล้านคน วิชัยระบุว่า ชาวจีนกลุ่มนี้เข้ามาใช้บริการคิง เพาเวอร์ ทุกสาขา รวมแล้วมากถึง 6-7 ล้านคน เขาตั้งเป้าที่จะเพิ่มเป็น 80% ของชาวจีนทั้งหมดที่เข้ามาในไทย จากการใช้ไทยแอร์เอเชียเป็นตัวเชื่อมหลัก ซึ่งหากมีผู้เล่นดิวตี้ฟรีรายใหม่ๆ เกิดขึ้น ฟันธงได้เลยว่าตลาดนักท่องเที่ยวจีนกว่า 10 ล้านคนดังกล่าว จะกลายเป็นทะเลเดือดแน่นอน

จึงไม่แปลกเลย ถ้านอกจากไทยแอร์เอเชียจะต่อยอดทางธุรกิจให้กับคิง เพาเวอร์แล้ว จะยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่คิง เพาเวอร์หวังจะใช้ในการสกัดดาวรุ่งผู้เล่นดิวตี้ฟรีรายใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต