เม.ย.ขึ้นค่าแท็กซี่5-7%

คมนาคมตั้งธงปรับขึ้นค่ามิเตอร์แท็กซี่ 5-7% ยันค่าเซอร์ชาร์จสนามบินรอ "อาคม" ไฟเขียว มีผล เม.ย.นี้

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์ ระยะที่ 2 และค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบิน ว่า ในเบื้องต้นมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น โดยในการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์นั้น มีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นมากกว่า 5% แต่ตัวเลขที่ชัดเจนจะต้องรอให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พิจารณาเห็นชอบก่อน หาก รมว.คมนาคมเห็นชอบแล้วจะมีการประกาศกระทรวง พร้อมกับลงราชกิจจานุเบกษาและจะมีผลบังคับใช้ในช่วงหลังสงกรานต์นี้

ด้าน นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ ระยะที่ 2 น่าจะปรับขึ้นอยู่ในช่วง 5-7% ซึ่งเมื่อรวมกับการปรับขึ้นในระยะแรกแล้วไม่สูงเกินเพดานที่ได้เคยหารือไว้ คือจะต้องปรับขึ้นเฉลี่ย 13% แต่ได้ปรับขึ้นระยะแรกไปแล้ว 6-8%

ขณะที่การปรับขึ้นค่าเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบินนั้น จะดูโครงสร้างราคาให้สะท้อนความเป็นจริง โดยวิเคราะห์จากลักษณะแท็กซี่ปกติ (รถเล็ก) และรถแท็กซี่แวน (รถใหญ่) และขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าที่ผู้ประกอบการเสนอมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์แล้ว กรมการขนส่งทางบกจะออกกฎกระทรวงประกาศให้แท็กซี่ติดตั้งเครื่องมือติดตามดาวเทียม (จีพีเอส) เพื่อความปลอดภัย โดยผู้ประกอบการแท็กซี่จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าติดตั้งเอง คาดว่าจะเริ่มติดตั้งได้ภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี หลังจากปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์แล้ว จะมีมาตรการดูแลที่เข้มข้น โดยใช้การลงโทษสูงสุดในทุกกรณีหากไม่ทำตามกฎหมาย
  
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแท็กซี่มิเตอร์กว่า 8 หมื่นคัน โดยเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2557 กระทรวงคมนาคมได้ออกประกาศ เรื่อง กำหนดอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 1 กม.แรก เริ่มที่ 35 บาท ถ้าเกิน 1-10 กม. คิด กม.ละ 5.50 บาท ส่วนที่เกิน 10-20 กม. คิด กม.ละ 6.50 บาท ระยะทางเกิน 20-40 กม. คิด กม.ละ 7.50 บาท ระยะทางเกิน 40-60 กม. คิด กม.ละ 8 บาท ระยะทางเกิน 60-80 กม. คิด กม.ละ 9 บาท เกินกว่า 80 กม.ขึ้นไป คิด กม. ละ 10.50 บาท

นอกจากนี้ ได้ปรับลดระยะทางในการนำมาคำนวณค่าโดยสารลงจากเดิม 12 กม. เหลือแค่ 10 กม