posttoday

ทีวีดิจิทัลปี'61แข่งดุชิงผู้นำ

01 พฤศจิกายน 2560

ช่อง 8 เผยธุรกิจทีวีดิจิทัลปี 2561 แข่งขันดุ ส่งผลให้ต้องลุย คอนเทนต์พรีเมียม พร้อมเล็งขยับค่าโฆษณา 40%

ช่อง 8 เผยธุรกิจทีวีดิจิทัลปี 2561 แข่งขันดุ ส่งผลให้ต้องลุย คอนเทนต์พรีเมียม พร้อมเล็งขยับค่าโฆษณา 40%

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิทัลในปี 2561 คาดว่าจะมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายเริ่มออกมาปรับตัวเพื่อเป็นหนึ่งในผู้ชนะ ประกอบกับปัจจุบันเม็ดเงินโฆษณาเริ่มกลับมาฟื้นตัว จึงน่าจะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2561 ขยายตัวดีขึ้น และส่งผลให้ธุรกิจทีวีดิจิทัลฟื้นตัวตามไปด้วย

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของช่อง 8 ในปี 2561 นั้น บริษัทจะนำคอนเทนต์พรีเมียมระดับคุณภาพมาออกอากาศมากขึ้น ทั้งในส่วนของคอนเทนต์ในประเทศและต่างประกาศ โดยการเน้น 2 เวลาหลักในการออกอากาศ คือ เวลา 06.00-09.00 น. และเวลา 18.00-22.30 น. เพื่อขยายฐานผู้ชมให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

"ปัจจุบันช่อง 8 มีฐานผู้ชมออนไลน์เติบโตค่อนข้างก้าวกระโดด เพราะมีการเชื่อมหน้าจอทีวีกับสื่อออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ ไลน์ทีวี และเว็บไซต์ ด้วยการนำรายการข่าวซีรี่ส์บอลลีวู้ดและละครมาไลฟ์สดบนเฟซบุ๊กคู่ขนานไปกับแพลตฟอร์มหน้าจอทีวี จึงทำให้มียอดผู้ชมติดตามจำนวนมาก" นายสุรชัย กล่าว

ทั้งนี้ เบื้องต้นบริษัทได้เตรียมนำซีรี่ส์บอลลีวู้ดที่โด่งดังระดับโลกอย่าง วัลลัภ มหาราชย์สุดแผ่นดิน และพิฆเนศ มหาเทพไอยรา ซึ่งถือเป็นซีรี่ส์ฟอร์มยักษ์จากอินเดียมาออกอากาศ เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากซีรี่ส์เรื่อง หนุมาน สงครามมหาเทพ ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มความเข้มข้นของคอนเทนต์ข่าว ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ กีฬา บันเทิง และสังคมให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ภายใต้แนวคิด เล่าง่าย ดูง่าย และเข้าใจง่าย

นอกจากนี้ บริษัทยังจะตอกย้ำการเป็นคิง ออฟ ไฟต์ สปอร์ต เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำกลุ่มรายการมวย ด้วยการนำ 3 รายการที่ได้รับความนิยมอย่าง 8 แม็กซ์มวยไทย มวยไทย แบทเทิ้ล ศึกค่ายชนค่าย และเดอะ แชมเปี้ยน มวยไทยตัดเชือก รวมไปถึงรายการมวยระดับโลกอื่นๆ ที่ได้ลิขสิทธิ์นำมาออกอากาศอย่างต่อเนื่อง

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของรายการวาไรตี้ก็จะมีรายการใหม่ๆ มาออกอากาศเพิ่มเติมเช่นกัน รวมไปถึงละครต่างๆ ซึ่งจากฐานผู้ชมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2561 บริษัทมีแผนที่จะปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40% เพื่อให้สอดคล้องกับฐานผู้ชมที่เพิ่มขึ้น โดยในสิ้นปี 2561 คาดว่าจะมีฐานผู้ชมอยู่ที่ 7 แสนราย/นาที และมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท