posttoday

หัวเว่ยลุยต่อแท็บเล็ต

11 สิงหาคม 2560

หัวเว่ยส่งมีเดียแพด ที3 เสริมทัพตลาดแท็บเล็ตกวาดครบทุกระดับราคา คาดกวาดรายได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่น

หัวเว่ยส่งมีเดียแพด ที3 เสริมทัพตลาดแท็บเล็ตกวาดครบทุกระดับราคา คาดกวาดรายได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่น

นายทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแท็บเล็ตทั่วโลกถือว่าอยู่ในช่วงขาลง รวมทั้งในไทยที่ลดลงทั้งในแง่จำนวนเครื่องและยอดขายประมาณ 2 หลัก

ขณะที่ผลสำรวจจากไอดีซี ระบุว่า หัวเว่ยเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่โตสวนทิศทางตลาด ทำให้จำนวนเครื่องมีการเติบโตเป็นอันดับ 2 ต่อเนื่องทั้งไตรมาสแรกและไตรมาส 2 ยอดขายของจำนวนเครื่องโตสูงกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยแท็บเล็ตสามารถทำรายได้ให้บริษัทในสัดส่วน 15% ที่เหลือเป็นกลุ่มมือถือ ทำให้ปัจจุบันรายได้ของบริษัทมีทิศทางที่ดีขึ้นสำหรับสินค้าในกลุ่มคอนซูเมอร์

ทั้งนี้ การส่งรุ่นมีเดียแพด ที3 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 9.6 นิ้วลงตลาด จะเป็นการเติมเต็มไลน์สินค้ากลุ่มแท็บเล็ตเดิมที่มีอยู่ 3 รุ่น คือ เอ็ม3 พี2 และ พี1 ที่มีราคาอยู่ที่ 1.29 หมื่นบาท 4,590 และ 3,590 บาท ตามลำดับ ซึ่งรุ่นที่ 3 ราคาอยู่ที่ 8,900 บาท เพื่อเจาะตลาดกลุ่มใช้งานเครื่องเพื่อความบันเทิง ดูหนังฟังเพลงและอ่านหนังสือ ถือว่าเป็นสินค้าตามความต้องการของตลาดที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น โดยอัตราส่วนของหน้าจออยู่ที่ 16:9 ตามขนาดของหน้าจอทีวี

ด้านการทำตลาด หลังจากมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับของแถมที่ลูกค้าต้องการสำหรับใช้งานร่วมกันแท็บเล็ตนั้น พบว่าหูฟังและลำโพงยังคงเป็นสิ่งที่ต้องการเป็น อันดับต้นๆ จึงได้เพิ่มเติมชุด Entertainment Box Set มูลค่า 4,170 บาท ได้แก่ ลำโพง บลูทูธ หูฟัง AKG และแพ็กเกจดูหนังออนไลน์บนไอฟลิกซ์ ฟรี 3 เดือน โดยจะมีเครื่องสีเทาและสีทอง ตัวเครื่องขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมชุบผิว ซึ่งเปิดตัววางขายพร้อมกันวันที่ 11 ส.ค.นี้ ทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้านโมเดิร์นเทรด รวมทั้งจะเร่งสื่อสารสินค้ากลุ่มนี้ให้ลูกค้าทราบผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

"หลังได้งบการตลาดจากสำนักงานใหญ่มาเพิ่ม หัวเว่ยจะเร่งเดินหน้าจัด โปรโมชั่นและแคมเปญเต็มที่ และยังอยู่ในช่วงพูดคุยกับโอเปอเรเตอร์ทุกรายที่สนใจ" นายทศพร กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มในปีนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงการตัดสินใจว่าจะเจาะกลุ่มใดเป็นพิเศษ เพราะสินค้าทั้ง 3 รุ่นเดิมที่มีอยู่ก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งลูกค้าที่จะซื้อเครื่องใหม่จะเป็นการแทนที่เครื่องเดิม ซึ่งปกติแท็บเล็ตจะมีอายุการใช้งานนานกว่ามือถือที่มีการใช้งานเฉลี่ย 2 ปี

อย่างไรก็ตาม พบว่าการทำตลาดแท็บเล็ตของคู่แข่งในปัจจุบันเหลือแค่แบรนด์ใหญ่เท่านั้น จึงเชื่อว่าจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและราคาจะเป็นโอกาสเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ