ธรรมจักรบูชา ธรรมยาตรา สู่มาฆบูชาโลก ณ ชมพูทวีป (๖)
การจัดงานมาฆบูชาโลกในครั้งนี้เป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในชมพูทวีปให้คืนกลับมาให้ดำรงอยู่
การจัดงานมาฆบูชาโลกในครั้งนี้เป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในชมพูทวีปให้คืนกลับมาให้ดำรงอยู่
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส [email protected]
ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์อารยะวังโส
ดิฉันได้ทราบมาว่า ในเดือนก.พ.นี้จะมีงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ๒ งานใหญ่ คือ งานปฏิบัติกรรมฐาน ณ บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ในวันที่ ๑ ก.พ. ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๕ ก.พ. ๒๕๕๓ แล้วต่อด้วยธรรมยาตรา สู่เมืองราชคฤห์ ในวันที่ ๖ ก.พ. ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๙ ก.พ. ๒๕๕๓ ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของหลวงพ่อ
นอกจากนี้ จะมีงานมาฆบูชาโลกซึ่งถือเป็นงาน “รวมพลังชาวพุทธสู่ความเป็นหนึ่ง เนื่องในวันมาฆบูชา” จัดโดยมหาโพธิสมาคมของอินเดียในวันที่ ๒๖ ก.พ. ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๒๘ ก.พ. ๒๕๕๓ ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร เมืองราชคฤห์
ขอกราบเรียนหลวงพ่อเมตตาให้ความกระจ่างชัดว่า ทั้งสองงานนี้มีความเป็นมา และมีความสำคัญในทางธรรมอย่างไร สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสไป จะได้มีส่วนร่วมในมหากุศลนี้อย่างไร
กราบนมัสการด้วยความเคารพยิ่ง
จันทร์เพ็ญ ตูเทศานันท์
วิสัชนา : ซึ่งชาวพุทธเราเรียกวันดังกล่าวอีกชื่อหนึ่งว่า “จาตุรงคสันนิบาต” อันประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ คือ
เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ อยู่ในมาฆฤกษ์
ภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ภิกษุที่ร่วมประชุมล้วนเป็นพระอรหันตขีณาสพ
ผู้ได้อภิญญา ๖
ภิกษุทั้งหมดล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา
(พระพุทธเจ้าประทานให้บวชด้วยพระองค์เอง)
โดยนัยความสำคัญในการประชุมครั้งนี้ นอกจากพระพุทธองค์จะได้ทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์แล้วนั้น พระพุทธองค์ยังได้ทรงสถาปนาพระสารีบุตรเถรเจ้าและมหาโมคคัลลานะเถรเจ้าเป็น “คู่อัครสาวก” ในพระพุทธศาสนา ดังนั้นความสำคัญของวันมาฆบูชาจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในพระพุทธศาสนา เพราะเป็นการประกาศสถาปนาความมั่นคงแข็งแรงของพระพุทธศาสนา เพื่อความสืบเนื่องต่อไป ตามพระพุทธประสงค์ มีการจัดวางระเบียบแผน รวมถึงหน้าที่ บทบาท ของคณะสงฆ์ให้ชัดเจน เข้มแข็งและมีคุณภาพ เพื่อการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป เพื่อการดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งของพระพุทธศาสนาสืบต่อไปเบื้องหน้า ซึ่งลักษณะการประชุมของสงฆ์เช่นนี้ในสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า ของเราพระองค์นี้มีเพียงครั้งเดียว คือในปีแรกหลังจากตรัสรู้ ๙ เดือน ด้วยความหมายธรรมใน “โอวาทปาฏิโมกข์” ที่ว่า
“ขันติเป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่า นิพพานเป็นธรรมอันสูงสุด
ผู้ทำร้ายผู้อื่นไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ผู้เบียดเบียนผู้อื่นไม่ชื่อว่าสมณะ
การไม่ทำบาปทั้งปวง ๑ การยังกุศลให้ถึงพร้อม ๑
การทำจิตให้ผ่องใส ๑
นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
การไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑
ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ ๑
ความเป็นผู้รู้ประมาณในโภชนะ ๑ ที่นั่งที่นอนอันสงัด ๑
การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑
นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย...”
จากสามพระคาถากึ่งโอวาทปาฏิโมกข์ ที่แปลมาเป็นภาษาไทยให้สาธุชนทั้งหลายได้พิจารณาโดยแยบคาย หากจะมองอย่างพินิจก็จะนำไปสู่ความเข้าใจในเจตนาธรรมของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือ สันติธรรม สันติสุข ในหมู่ประชาสัตว์ในโลกนี้ ดังนั้นเจตนาธรรมของการประกาศหลักธรรมโอวาทปาฏิโมกข์ให้แพร่หลายกว้างขวางออกไปในหมู่ชาวโลกนั้น ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจและยินดีที่จะน้อมนำมาปฏิบัติ ด้วยความเป็นศาสนาสากลของพระพุทธศาสนา ย่อมนำมาซึ่งความสุขสงบแห่งโลกนี้ ตามที่ทุกๆ ท่านเรียกร้องและปรารถนากันมากในสังคมโลกปัจจุบัน ซึ่งหากพิจารณาให้ถ่องแท้อย่างละเอียดจากความหมายธรรมดังกล่าว ก็จะต้องยอมรับว่า “พุทธศาสนานั้นเป็นหลักสันติธรรมที่จะนำไปสู่สันติภาพอย่างแท้จริง จึงควรอย่างยิ่งที่จะมีประชามติออกมาจากชาวพุทธทั่วโลก เพื่อให้วันมาฆบูชาเป็นวันสันติภาพแห่งโลก เพื่อสืบสานเจตนาธรรม โดยการเผยแพร่พระโอวาทปาฏิโมกข์ หลักพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า อันเป็นศาสนสากลให้แพร่หลายไปในสังคมโลก เพื่อจะได้เกิดความเห็นชอบ ความเห็นควร ที่จะน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ จัดระบบระเบียบสังคมกันใหม่ ตามแบบแผนวิธีพุทธ อันจะนำไปสู่การดำรงมั่นคงและสงบสุขของสังคมโลกได้สืบต่อไป...”
ดังนั้น ในการจัดงานมาฆบูชาโลกในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการปลูกฝังรากฐานพระพุทธศาสนาให้มั่นคงแข็งแรงสืบต่อไปแล้วนั้น ยังเป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในชมพูทวีปให้คืนกลับมาให้ดำรงอยู่ โดยการสนับสนุนให้ชาวพุทธในอินเดียได้ออกมามีบทบาทเทียบเท่าชาวพุทธทั่วโลกแล้ว ประการสำคัญ คือ การสืบอายุพระพุทธศาสนา โดยการเผยแผ่คุณค่าของพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระผู้มีพระภาค ที่ถูกต้องตรงพระธรรมวินัยให้กว้างขวางออกไปในหมู่ชนทุกเชื้อชาติ ทุกภาษา สมดั่งพระประสงค์ของพระพุทธองค์ที่ทรงประทานพระมหากรุณาธิคุณ อันไม่มีประมาณแก่ปวงสัตว์ หวังให้สัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์อย่างแท้จริง ด้วยอำนาจแห่งพระอริยสัจธรรม ที่ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง
อ่านต่อฉบับหน้า
**ส่งคำถามหรือ แสดงความเห็นในเรื่องต่างๆได้ที่ คอลัมน์ธรรมส่องโลก หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ อาคารบางกอกโพสต์ 136 ถนน ณ ระนอง แยกสุนทรโกษา คลองเตย กทม. 10110 โทรสาร 02-671-3132