posttoday

ความสำเร็จอยู่ที่การลงมือทำ

10 มีนาคม 2562

เรื่อง: นสพ.ชัยวลัญช์ ตุนาค เจ้าของเพจ Dr.Dang Can Do

เรื่อง: นสพ.ชัยวลัญช์ ตุนาค เจ้าของเพจ Dr.Dang Can Do

 

เป็นกันบ้างมั้ยครับ ที่บางครั้งรู้สึกเบื่อๆ เหงาๆ รู้สึกไม่สดชื่นกับชีวิต

อยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไร? ไม่มีอะไรมากระตุ้น ก็จะยังใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ อยู่ใน Comfort Zone ไปเรื่อยๆ เพราะชีวิตแบบนี้ก็ดูไม่เลวร้ายไปเสียทุกอย่าง

เขาบอกว่าคนเราจะทำอะไร หรือจะไม่ทำอะไร มีเหตุผลอยู่ 2 อย่าง คือ ความพอใจ และความเจ็บปวด

หมายความว่า เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น ต้องเริ่มมาจากความพอใจที่จะทำสิ่งนั้น หรือทำเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด อย่างเช่น ทำงานเพื่อให้มีรายได้ เพื่อหลีกหนีความเจ็บปวดจากการที่ไม่มีข้าวกิน ถ้าไม่มีรายได้

อย่างที่เรายอมทำอะไรสักอย่าง ทั้งที่ก็เบื่อๆ แต่ก็ต้องทำ เพราะทำให้มีรายได้ จะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการที่ไม่มีรายได้นั่นเอง

บางคนยอมอยู่ใน Comfort Zone เพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง จริงๆ แล้วก็คือ กลัวความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง กลัวว่าเปลี่ยนไปแล้วจะสะดวกสบายเหมือนเดิมมั้ย!!! กลัวการเริ่มต้นใหม่ กลัวสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

แต่แล้วในที่สุด ก็จะมาถึงจุดจุดหนึ่งที่เราเรียกว่า “จุดเปลี่ยนของชีวิต” ฝรั่งเรียก “Turning point” มันคือจุดที่คนเราจะตัดสินใจเปลี่ยนอะไรบางอย่างในชีวิต หรือเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปเลย เช่น เลิกบุหรีี่เพราะป่วยหนัก เลิกเหล้าเพราะตับพัง หรือบางคนลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัว เป็นต้น

คนเราจะเปลี่ยนแปลงอะไรจากสิ่งที่คุ้นเคยไปเป็นสิ่งใหม่ ต้องมีแรงกระตุ้นมหาศาล แรงกระตุ้นนั้นต้องมีผลกับชีวิตและความนึกคิดเป็นอย่างมาก ไม่งั้นคงไม่เปลี่ยน เขาเรียกว่า Impact มันมาก มากเสียจนต้องเป็นจุดที่ตัดสินใจว่า เอาวะ จะต้องเปลี่ยนแล้วละ จะอยู่แบบเดิมไม่ได้แล้ว

เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอกครับ ที่เราตั้งใจ ตั้งเป้าหมายว่าจะทำอะไรแล้วไม่ได้ทำ อาจจะเป็นเพราะความคิดยังไม่ตกผลึก คิดยังไม่ออก มองไม่เห็นประโยชน์ กลัวการเปลี่ยนแปลง จริงๆ แล้วคือ “ไม่มั่นใจในตัวเอง”กลัวความล้มเหลว กลัวคนว่าทำอะไรแล้วไม่สำเร็จ

ถ้า โทมัส เอดิสัน กลัวความล้มเหลว เราคงไม่มีหลอดไฟมาให้ใช้ รถไฟฟ้าวันนี้ก็เริ่มจากรถจักรไอน้ำ เมื่อหลายร้อยปีก่อน คอมพิวเตอร์เครื่องแรกใหญ่เท่าบ้าน จะเห็นว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่มันเริ่มมาจากการลงมือทำ ทำ และทำ และปรับปรุงไปเรื่อยๆ

เราต้องเรียนรู้จากความล้มเหลว ไม่มีใครทำอะไรครั้งแรกแล้วดีที่สุด ไม่อยากนั้น จะมี Version 1 Version 2 Version อื่นๆ ตามมาเหรอครับ

และสาเหตุส่วนใหญ่ที่คนส่วนใหญ่ไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เขาวิจัยมาแล้วครับว่า ไม่ใช่จากภาวะเศรษฐกิจ ไม่ใช่การเมือง ไม่ใช่ PM2.5 หรืออะไรก็ตามแต่เราจะโยนบาปไปให้

สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จในเป้าหมายเราก็คือ “ตัวเรา” นั่นแหละ ตัวเราที่กลัวความล้มเหลว ดีแต่พูดและก่นด่าคนอื่นๆ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ สุดท้ายก็ไม่กล้าลงมือทำอะไรสักทีนั่นเอง

ที่เราไปไม่ถึงเป้าหมายสักทีเพราะเราเอาแต่ตั้งเป้าหมาย เอาแต่พูด แต่สิ่งที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมาย มันมีอยู่ข้อเดียว นั่นคือ “การลงมือทำ”

ถ้าคุณไม่เปลี่ยนตัวเองวันนี้ โลกมันจะเปลี่ยนคุณเองไม่ช้าก็เร็ว เชื่อสิ!!!