posttoday

การเมืองไทย ที่ใครๆ ก็นึกไม่ถึง

10 กุมภาพันธ์ 2562

ช่วงนี้ในประเทศไทยกำลังฝุ่นตลบ ทั้งเรื่องฝุ่น PM2.5 ที่มาควบคู่กับฝุ่นนักการเมือง เมื่อนักการเมืองหาเสียงกันฝุ่นตลบ

โดย...ขรัา76+1

ช่วงนี้ในประเทศไทยกำลังฝุ่นตลบ ทั้งเรื่องฝุ่น PM2.5 ที่มาควบคู่กับฝุ่นนักการเมือง เมื่อนักการเมืองหาเสียงกันฝุ่นตลบ พบปะประชาชนมือไม้อ่อน ไหว้ทุกท่านด้วยความนอบน้อม ไม่ว่าพ่อแม่พี่น้องนั้นเป็นใคร แต่หลังการเลือกตั้งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนที่สมัคร สส.จะได้รับเลือกหรือไม่ก็ตาม จะไม่เห็นหัวพวกเราชาวบ้านแล้ว นี่เป็นสัจธรรมระหว่าง สส.และชาวบ้าน

เรื่องแบบนี้พออนุมานได้ว่า ทั้งนักการเมืองและฝุ่น PM2.5 ไว้ใจไม่ได้ มีอันตรายพอๆ กัน อันฝุ่น PM2.5 นั้น ถือว่าเป็นมลพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ตามที่องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญและออกมาแจ้งเตือนให้ทราบ เพราะเป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก เส้นผมที่ว่ามีขนาดเล็กแล้ว เจ้า PM2.5 ยังเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า ทำให้เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าสู่ปอดและหลอดเลือดได้ง่าย ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว จึงพบว่าผู้ที่สูดไอพิษในระยะแรกๆ จะมีอาการไอค๊อกไอแค๊ก มากน้อยตามปริมาณที่สูดดมเข้าไป

หากใช้หน้ากากปิดจมูกปิดปากก็อาจช่วยป้องกันจากหนักเป็นเบา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามีภูมิคุ้มกันหรือประมาทหรือไม่

เขียนเรื่องฝุ่นเพลินจนเกือบลืมฝุ่นนักการเมืองไปเลย ฝุ่นนักการเมืองเกิดจากการวิ่งหาเสียงเพื่อหวังมีคะแนนเหนือคู่แข่งคือ หวังชนะครับ ดังนั้นอันตรายจากนักการเมืองอาจมองไม่เห็นในระยะวิ่งหาเสียง แต่จะส่งผลหลังเลือกตั้ง เมื่อเขาจับมือกันมีอำนาจบริหารรัฐ หากมีโอกาสก็จะหาวิธีถอนทุนดังที่เคยมีมาก่อนหน้านั่นแล

ส่วนเราชาวประชา ต้องมีสติ ปัญญา ไตร่ตรองให้ดี ว่าจะเลือกใคร หากเลือกคนดี พรรคดี มีศีลธรรม ก็อุ่นใจว่าจะนำพาประเทศชาติให้เจริญและพัฒนาต่อไป หากเลือกผิดคิดจนตัวตาย หรือจนถึงวันเลือกตั้งครั้งใหม่ หรือมิเช่นนั้น ก็ถึงวันที่ทหารมายึดอำนาจอีกครั้ง เรื่องนี้ประมาทไม่ได้ จำได้ไหมที่เราชาวไทยเคยพูดด้วยความมั่นใจในอดีตว่า ทหารกลับเข้ากรมกองหมดแล้ว ไม่ปฏิวัติ หรือยึดอำนาจกันอีก แต่เป็นไง มีรัฐบาลเลือกตั้งที่อยู่ครบ 4 ปี เพียงรัฐบาลเดียวตั้งแต่ปี 2475 นั่นคือรัฐบาลปี 2544-2548 นายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร นอกจากนั้นถูกทหารยึดอำนาจเรื่อยมา

การเลือกตั้งปี 2562 มีปรากฏการณ์ใหม่ที่คนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กกต.คาดไม่ถึงจึงไม่ได้ตีกรอบไว้ นั่นคือคนสมัครรับเลือกตั้งเปลี่ยนชื่อ ชายเปลี่ยนเป็นทักษิณ สตรีก็เปลี่ยนเป็นยิ่งลักษณ์ ทั้งสองชื่อคืออดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่ถูกทหารยึดอำนาจ ตอนนี้ลี้ภัยในต่างประเทศ ผู้ที่เอาชื่ออดีตนายกรัฐมนตรีมาใช้ ไม่ได้ให้เหตุผลอื่นนอกจากศรัทธา และกลัวคนลงคะแนนจะสับสน เพราะ กกต.ไม่ได้ให้หมายเลขของพรรคหมายเลขเดียวทั่วประเทศ แต่ให้หมายเลขแก่ผู้สมัครตามที่จับได้จากเขตการเลือกตั้งนั้นๆ ในขณะที่ผู้ที่เปลี่ยนชื่อที่ว่าย่อมทำได้ เพราะไม่ผิดกฎหมายและไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ถ้าเขาได้รับเลือกนั่งในสภา เมื่อยกมือขออภิปราย ประธานสภาขานชื่อ อดีตนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง คนไม่ชอบอดีตนายกรัฐมนตรีคงเครียด เพราะชื่อก็ไม่อยากได้ยิน ส่วนผู้ชอบคงครื้นเครง สภาไทยจะเป็นสภาคลายเครียดต่อไป นี่คือการเมืองไทย ที่ใครๆ ก็นึกไม่ถึง