posttoday

มหัศจรรย์ในวันเทโวโรหณะ

24 ตุลาคม 2553

วันที่ 24 ต.ค.ปีนี้ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่งก็คือ “วันเทโวโรหณะ” โดยตรงกับ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11

วันที่ 24 ต.ค.ปีนี้ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่งก็คือ “วันเทโวโรหณะ” โดยตรงกับ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่งก็คือ “วันเทโวโรหณะ” โดยตรงกับ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ความสำคัญของวันนี้คือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกชั้นดาวดึงส์มาสู่เมืองมนุษย์หลังจากที่ไปจำพรรษาที่ดาวดึงส์เป็นเวลา 3 เดือน

ขอเท้าความให้ฟังว่าในพรรษาที่ 7 นั้น พระพุทธเจ้าได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยประทับอยู่บนบัณฑุกัมพลศิลาเพื่อทรงแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา ซึ่งปกติแล้วพระพุทธมารดาประทับที่สวรรค์ชั้นดุสิต แต่เมื่อถึงเวลาที่พระพุทธองค์จะทรงแสดงธรรมที่ดาวดึงส์ก็จะเสด็จมาจากวิมานชั้นดุสิต มาประทับ ณ พระปรัศว์เบื้องขวาของพระพุทธองค์เพื่อทรงฟังธรรม
ปรากฏว่า 7 วันก่อนวันออกพรรษา มหาชนที่เฝ้ารอการเสด็จลงจากเทวโลกของพระพุทธเจ้าได้เข้าไปหาพระมหาโมคคัลลานะเพื่อให้ไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่าจะเสด็จลงจากเทวโลกเมื่อไหร่

พระมหาโมคคัลลานะฟังถ้อยคำแล้วดำลงในแผ่นดินตรงนั้นเองอธิษฐานให้มหาชนเห็นท่านไปถึงเชิงเขาสิเนรุแล้วขึ้นไปท่ามกลางเขาสิเนรุ และพวกมนุษย์ก็แลเห็นท่านขึ้นไป ผ่านไปหนึ่งโยชน์ สองโยชน์แล้ว เป็นต้น

พระเถระได้ไปถวายบังคมแล้วทูลว่าพุทธบริษัทประสงค์จะเฝ้าพระองค์เต็มทีและอยากจะทราบว่าจะเสด็จไปลงเมื่อไหร่และที่ไหน พระศาสดาจึงตรัสถามพระเถระว่าสารีบุตรพี่ของเธออยู่ที่ไหน ก็ทูลว่าจำพรรษาอยู่สังกัสสนคร จึงตรัสตอบว่าในวันที่ 7 แต่วันนี้ไปเราจักลงที่ประตูเมืองสังกัสสะในวันมหาปวารณา ผู้ใคร่จะพบเราก็จงไปที่นั่นเถิด และตรัสต่อว่า สังกัสสนครจะอยู่ห่างจากเมืองสาวัตถีประมาณ 30 โยชน์ ในหนทางนั้นใครๆ ไม่จำเป็นต้องเตรียมเสบียง พึงบอกแก่คนเหล่านั้นว่าจงเป็นผู้รักษาอุโบสถไปเหมือนไปวิหารใกล้ๆ เพื่อฟังธรรมเถิด

ซึ่งข้อความนี้เป็นที่มาของการตักบาตรที่นิยมเรียกกันว่าตักบาตรเทโว และวันนี้เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนต่างก็เป็นผู้รักษาอุโบสถศีล

ความอัศจรรย์ของวันเทโวโรหณะในธรรมบทได้บรรยายความอัศจรรย์ไว้ว่าพระองค์ได้ตรัสบอกท้าวสักกะจะเสด็จกลับโลกมนุษย์ ซึ่งท้าวสักกะก็ได้ทรงเนรมิต|บันได 3 ชนิด คือ บันไดทองคำ บันไดแก้วมณี บันไดเงิน

โดยเชิงบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่แล้วที่ประตูเมืองสังกัสสนคร หัวบันไดเหล่านั้นตั้งอยู่แล้วที่ยอดเขาสิเนรุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บันไดทอง อยู่ข้างเบื้องขวาเพื่อพวกเทวดา บันไดเงิน อยู่ข้างเบื้องซ้ายเพื่อพวกมหาพรหม บันไดแก้วอยู่กลาง เพื่อพระตถาคต

ทั้งนี้ ขณะที่ทรงยืนอยู่บนยอดเขาสิเนรุได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์ด้วยการทอดพระเนตรไปที่เบื้องบน ปรากฏว่าที่ที่พระองค์ทอดพระเนตรนั้นได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก จากนั้นทอดพระเนตรลงมาข้างล่าง ปรากฏที่ที่ทอดพระเนตรนั้นได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงอเวจี และเมื่อทอดพระเนตรทิศใหญ่และทิศเฉียงจักรวาลหลายแสนได้มีเนินเป็นอันเดียวกัน

ความอัศจรรย์ได้บังเกิดขึ้น ก็คือ เทวดา มนุษย์ สัตว์นรก ต่างเห็นกันหมดแล้ว

จากนั้นทรงเปล่งพระฉัพพัณณรังสีไป ปรากฏเมื่อใครแลดูพระสิริของพระพุทธเจ้าในวันนั้นแล้วไม่ปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้ามิได้มีเลย

ในการเสด็จลงมาครั้งนั้นพวกเทวดาลงบันไดทอง มหาพรหมลงบันไดเงิน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงลงบันไดแก้วมณี |เทพบุตรนักฟ้อนชื่อปัญจสิขะถือพิณสีเหลือง ณ ข้างเบื้องขวาทำบูชาด้วยการฟ้อนถวาย มาตลีสังคาหกเทพบุตรยืน ณ ข้างเบื้องซ้าย ถือของหอมและดอกไม้ทิพย์ทำการบูชา มหาพรหมกั้นฉัตร ท้าวสุยามถือพัดวาลวีชนี

ในปัจจุบันถ้าอยากรำลึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้ก็ไปดูได้ที่ จ.อุทัยธานี ซึ่งวันนี้จะมีพิธีทำบุญตักบาตรเทโวที่ที่วัดสังกัสรัตนคีรี โดยจะมีพระสงฆ์จากทั่วทุกอำเภอของอุทัยธานีเดินลงจากเขาสะแกกรังทางบันได 449 ขั้น เพื่อมารับบิณฑบาตจากชาวพุทธ