posttoday

ศีล 5 กับสังคมไทย ไม่ไกลเกินเอื้อม

23 กันยายน 2561

คนไทยควรจะหันมาใส่ใจรักษาศีล 5 เพื่อสังคมสงบสุข ร่มเย็น ผู้คนในชาติสามัคคี รักใคร่ปรองดอง มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

เรื่อง วรธาร ทัดแก้ว , ภาพ Fb วัดเรืองยศสุทธาราม

ได้เห็นการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ของคณะสงฆ์ โดยการนำของ พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ประธานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 แล้ว ได้แต่นึกแต่หวังว่า สักวันหนึ่งภายใน 20 ปีนี้ คนไทยจะหันมาใส่ใจรักษาศีล 5 เพื่อสังคมสงบสุข ร่มเย็น ผู้คนในชาติสามัคคี รักใคร่ปรองดอง มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

ทำไมภายใน 20 ปี เนื่องจากโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ถูกบรรจุเข้าในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาลแล้วนั่นเอง ดังนั้น ยังไงๆ โครงการนี้คณะสงฆ์ โดยการสนับสนุนจากรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนไปอีก 20 ปี ด้วยความเข้มแข็งและกล้าหาญ เพียงแต่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์

ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่โครงการนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2557 โดยความดำริชอบของเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในขณะนั้น ที่ต้องการจะเสริมสร้างและสมานฉันท์คนในชาติให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียว สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยให้ชาวพุทธได้น้อมนำหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน

ซึ่งโครงการนี้คณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมได้แต่งตั้ง พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา นั่งเป็นประธานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 จากนั้นเป็นต้นมาเราก็ได้เห็นการขับเคลื่อนโครงการฯ อย่างเข้มข้นมาตลอด โดย พระพรหมเสนาบดี ประธานขับเคลื่อนฯ พร้อมคณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ตามมติของมหาเถรสมาคมครบทุกจังหวัด จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็มาถึงการตรวจเยี่ยมโครงการในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ

ศีล 5 กับสังคมไทย ไม่ไกลเกินเอื้อม พระเทพศาสนาภิบาล และ พระพรหมเสนาบดี

เริ่มต้นที่วัดเรืองยศสุทธาราม แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม พระพรหมเสนาบดี พร้อมคณะกรรมการฯ ได้มาเดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการและมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่พระเถระ บุคคล องค์กร และสถานศึกษาต้นแบบในการส่งเสริมการศึกษาตามหลักพุทธธรรม และหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ จำนวน 155 ราย

ในโอกาสนำคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานครั้งนี้ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส มี ณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการ พศ. ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการ พศ. สุวัฒน์ ตันเสถียร ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม ผู้แทนผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ผู้แทนอธิบดีกรมการศาสนา พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผกก.สน.วัดพระยาไกร และผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมในพิธี

ศีล 5 กับสังคมไทย ไม่ไกลเกินเอื้อม สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

พระพรหมเสนาบดี ได้ฝากไปยังทุกภาคปกครองสงฆ์ที่วันนี้คณะกรรมการฯ มาครบทุกหน ให้คำนึงถึงหลัก 3 ประการในการปฏิบัติงาน ประการแรก พระสงฆ์ต้องปฏิบัติตนเป็นที่เลื่อมใสและสร้างศรัทธาแก่ประชาชนโดยให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ที่ทรงห่วงใยอยู่เสมอ ประการที่ 2 ขอให้ทำตามปณิธานของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ประธานโครงการฯ ซึ่งท่านตั้งความประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ตลอดจนเพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชน

“ขอให้คณะกรรมการฯ ไปแนะแนวให้คำแนะนำให้เป็นไปตามหลักที่กล่าวมา อย่าไปใช้อำนาจรบกวน แต่ต้องไปสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นแก่คณะสงฆ์และส่วนราชการ โดยมุ่งหวังประโยชน์สุขแก่ประชาชนตามปฐมบรมพุทโธวาท อัตถะ หิตะ สุขะ หัวใจสังคมสงเคราะห์ที่พระพุทธเจ้าประทานไว้ จึงฝากไว้กับคณะสงฆ์เพราะเราจะต้องทำงานกันอีก 19 ปี นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป” พระพรหมเสนาบดี กล่าว

ศีล 5 กับสังคมไทย ไม่ไกลเกินเอื้อม

ภาคบ่าย คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ได้เดินทางวัดบางนานอก ซึ่งที่นี่เน้นโรงเรียนรักษาศีล 5 โชว์สวดโอ้เอ้วิหารราย พร้อมทั้งการแสดงละครเวที ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ น่าชื่นชม โดยพระราชรัตนโสภณ เจ้าคณะเขตบางนา เจ้าอาวาสวัดบางนานอก ทำงานทุ่มเทเอาใจใส่กับงานศีล 5 ได้ผลเป็นอย่างดียิ่ง จากนั้นไปชุมชนเชื้อสายมอญ ต่อด้วยชุมชนบ้านสวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ เป็นชุมชนเข้มแข็งที่รักษาวิถีชาวพุทธไว้ได้อย่างดี โดยเฉพาะการมาทำวัตรสวดมนต์แปลที่ศาลากลางหมู่บ้าน ไม่ต้องมีพระก็สวดกันได้สบาย น่าปลื้มใจยิ่งนัก

ถ้าได้เห็นการขับเคลื่อนโครงการฯ อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องทุกปี เชื่อว่าเราคงจะได้เห็นสังคมไทยอุดมด้วยคนรักษาศีล ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีมากมายอย่างแน่นอน