posttoday

รู้ทุกข์จึงพบธรรม เห็นธรรมในความทุกข์ หากสู้ทุกข์จะได้ธรรม(๖)

29 ธันวาคม 2552

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส [email protected]

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส [email protected]

ปุจฉา : กราบนมัสการพระอาจารย์อารยะวังโสที่เคารพยิ่ง

ผมได้ติดตามคอลัมน์ธรรมส่องโลกมาตลอด เห็นว่ามีคุณประโยชน์อย่างวิเศษ เปรียบประดุจเทียนส่องสว่างให้แสงและทางออกแก่ชีวิตผู้คนที่กำลังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ
สิ่งต่อไปนี้คือสิ่งที่ได้จากการอ่านมากๆ และฟังมาก และลองทำตามอย่างจริงจัง แม้เพียงเริ่มฝึกฝน แต่มันให้ความรู้สึกที่ดี และมุมมองชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไปดังนี้ครับอาจารย์

๑.ผมรู้ว่าความเชื่อศรัทธาทางพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าอุบัติมาแล้วหลายพระองค์เป็นลำดับพุทธวงศ์ นอกจากพระพุทธเจ้าโคดมองค์ปัจจุบัน และในอนาคตจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นอีกหลายพระองค์ ตามพุทธทำนาย
๒.ผมรู้ว่าการประสบทุกข์ ไม่ว่ากายหรือทางใจ ที่เราและเหล่าสรรพสัตว์ได้ทำไว้ในอดีตชาติและปัจจุบัน และเรากำลังเสวยผลอยู่
๓.ผมรู้ว่าผมจะพ้นทุกข์ใจได้ ต้องปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะเหมือนกันทุกๆ พระองค์ คือการปฏิบัติธรรมทางจิตใจ คือปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ตลอดเวลา เพื่อควบคุมการประพฤติทางกายและใจเท่านั้น
๔.ผมเข้าใจอริยสัจ ๔ แล้ว ผมรู้ว่าผมต้อง ๑.ไม่งมงายเชื่อเรื่องพิธีกรรมคุณไสย ๒.ไม่ยึดมั่นในร่างกายว่าเป็นของเที่ยง ๓.ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในการปฏิบัติตามพระธรรมอีกต่อไป
๕.ผมเข้าใจแล้วว่าผู้ปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างเข้มข้น หมั่นเพียรและอดทนต่อความยากลำบากใจที่ต้องทวนกระแส เช่น จากความยั่วยวนของความโกรธ รูปร่างสวยงามของเพศตรงข้าม ความอยากได้เกินพอดี จนเริ่มเกิดผล

สุดท้ายผมขอกราบอาราธนาหลวงพ่อวิสัชนาชี้แนะ และข้อปฏิบัติเพิ่มเติมด้วยขอรับ
ขอกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
นายสุรชัย ธีระสนธิกูล

วิสัชนา : เมื่อเจริญโคจรสัมปชัญญะอย่างต่อเนื่องแล้วจะเกิดปัญญาที่รู้แจ้งในพระไตรลักษณ์ ยิ่งมีปัญญามากเท่าไร ความหลง (เปรียบเสมือนความมืด) ก็ลดลงไปมากเท่านั้น ซึ่งความโลภ ความโกรธ ก็จะลดน้อยลงด้วยช่วยกัน จะทำให้จิตใจของเราสงบ สะอาด และสว่างมากขึ้น จนที่สุดสามารถเข้าถึงความบริสุทธิ์แห่งจิตได้ เพราะปัญญาอันสูงสุดได้เกิดขึ้นแล้ว (ญาณทัสนวิสุทธิ)

ปัญญา (ญาณทัสนวิสุทธิ) จึงเป็นอำนาจธรรมที่จะนำออกมาจากความทุกข์ได้อย่างแท้จริง จะเกิดขึ้นได้ตามกระบวนการเจริญภาวนาที่เรียกว่า วิปัสสนาญาณ อันมีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น จึงจะนำไปสู่ความเข้าใจแจ่มแจ้งจริงในพระอริยสัจ ๔ ประการ และเข้าใจในความจริง ที่ว่าทุกข์เป็นสิ่งที่ควรรู้ สมุทัยเป็นสิ่งที่ควรละ เพื่อให้ถึงนิโรธ ซึ่งควรทำให้แจ้ง โดยมีมรรคสัจที่จะต้องเจริญให้มาก เพื่อให้เกิดปัญญา จึงจะสิ้นทุกข์ หรือดับทุกข์ ได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้แม้ในทางโลกก็ต้องมีปัญญา เข้าใจโลก จึงจะอยู่กับโลกได้อย่างไม่ขัดแย้งกับโลก เพื่ออยู่เหนือโลกด้วยธรรม

จึงขอเจริญพรมายังโยมสุรชัย ด้วยลิขิตธรรมที่กล่าวมา เพื่อขอเสริมสร้างปัญญาให้มากขึ้น เพื่อเติมกำลังใจด้วยพระธรรม เพื่อพัฒนาให้เป็นกำลังธรรมในดวงใจ เพื่อสอดส่องเรียนรู้ธรรมภายใน (รูปนาม) จนกว่าจะแจ้งจบจริง หรือจนกว่าจะจบสิ้นความกังขา ดับสิ้นความวิตกกังวล หมดสิ้นความอาฆาตพยาบาท และนำออกสิ้นซึ่งความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจด้วยปัญญาธรรมตามที่กล่าว ที่เกิดขึ้นจากอำนาจความระลึกรู้ชอบ (สัมมาสติ) และความเพียรชอบ (สัมมาวายา) จึงได้ให้หลักสัมปชัญญะ ๔ ประการมาเพื่อประกอบการปฏิบัติธรรม ในการดำรงตน ที่จะต้องมีสติและสัมปชัญญะ เพื่อควบคุมรักษาตนให้อยู่ในกรอบของหลักศีลธรรมที่สำคัญยิ่งต้องหาอุบายในทางสร้างสรรค์มีประโยชน์ และสมควรโดยธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นไปทีละขั้นทีละตอน อะไรสิ่งไหนที่ยังแก้ไม่ได้ ก็ต้องรู้จักวาง จนกว่าจะเข้าสู่ความเหมาะสม จึงค่อยกระทำ บางครั้งต้องรอให้เหตุปัจจัย อันเหมาะควรเกิดขึ้นมาก่อน จนถึงขณะความพร้อม แล้วค่อยดำเนินการ ซึ่งบางครั้งปัญหาก็สิ้นไปได้ด้วยสภาพแห่งเหตุปัจจัยในตัวของปัญหาเอง เพราะธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา อันเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย ไม่เป็นไปตามใจเราปรารถนา ดังนั้น ในห้วงแห่งเวลาที่ซับไว้ด้วยปัญหาต่างๆ นานา จึงควรอย่างยิ่งที่จะพึงประคองรักษาตัว พัฒนากายใจ ให้แข็งแรง เพื่อพร้อมสู้กับปัญหา อันเป็นธรรมดาในโลกใบนี้ อย่างกล้าหาญและชอบธรรม เพื่อจะนำผลความสัมฤทธิ์ คือ ความสุขที่แท้จริงมาให้ในยามบั้นปลาย ซึ่งเมื่อผ่านพ้นปัญหาไปแล้ว เราอาจจะนึกถึงมัน และอยากจะขอบคุณว่า “ถ้าไม่มีวิกฤตการณ์เหล่านี้ เราคงไม่ได้สมบัติความดี ความสุขอย่างนี้ ในบั้นปลายแห่งชีวิต”

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับปัญหาที่นำความทุกข์คับแค้นมาให้ แท้จริงแล้ว คือการต่อสู้กับภาวะความรู้สึกที่บีบเค้นบีบคั้น คับแค้นใจของเราเอง จึงต้องมีขันติธรรม อันเกิดจากความเห็นชอบ หรือสัมมาทิฏฐิ ต้องมองโลกอย่างไม่ขัดแย้งกับโลก ที่กล่าวว่ามองอย่างบวก (Positive Thinking) ประกอบด้วยกุศลเจตนา ซึ่งจะเสริมสร้างให้มีความสุขใจ ด้วยความเข้าใจจริงในสรรพธรรมหรือปัญญาเหล่านั้น

อ่านต่อฉบับหน้า

**ส่งคำถามหรือ แสดงความเห็นในเรื่องต่างๆได้ที่ คอลัมน์ธรรมส่องโลก หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ อาคารบางกอกโพสต์ 136 ถนน ณ ระนอง แยกสุนทรโกษา คลองเตย กทม. 10110 โทรสาร 02-671-3132