posttoday

‘ดาวพฤหัสย้าย... ดีร้ายอย่างไรประเทศไทย’

10 กันยายน 2560

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2560 เวลา 20.30 น. โดยประมาณ คติทางด้านหลักสถิติเกี่ยวกับดาราศาสตร์ในเชิงทฤษฎีโหราศาสตร์นั้น กล่าวเอาไว้ว่า ดาวพฤหัส

โดย ราช รามัญ

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2560 เวลา 20.30 น. โดยประมาณ คติทางด้านหลักสถิติเกี่ยวกับดาราศาสตร์ในเชิงทฤษฎีโหราศาสตร์นั้น กล่าวเอาไว้ว่า ดาวพฤหัส เป็นตัวแทนของคุณธรรม ความดี นักพรต นักบวช ครู อาจารย์ ซึ่งเป็นดาวดวงใหญ่อีกดวงหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องในด้านคลื่นพลังงานต่อโลกอยู่มาก

ในด้านของประเทศไทยเรานี้ เมื่อดวงเมืองมีลัคนาเป็นราศีเมษ ที่ผ่านมานั้นเกือบ 3 ปี ดาวพฤหัสได้สถิตอยู่ในภพมรณะ บุคคลที่เป็นตัวแทน ของดาวพฤหัสนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมาคงพอทราบกันดี ทั้งข่าวพระ ข่าวครู ข่าวด้านคุณธรรมต่างๆ มักจะมีกระแสออกมาในเชิงลบมากกว่าบวก

แต่เมื่อดาวพฤหัสได้โคจรเลื่อนเคลื่อนย้าย ไม่พ้น 7 วัน ไม่ผัน 7 เดือน ไม่เคลื่อนเกิน 700 นาที ย่อมจะมีสิ่งที่ดีตีกลับมาสู่ประเทศไทยของเราอย่างแน่นอน เพราะดาวพฤหัสได้ย้ายจากราศีกันย์ที่เป็นภพมรณะมาสู่ราศีตุลย์ซึ่งเป็นภพปัตตานิของดวงเมือง

อะไรที่เคยเทาๆ อะไรที่สีดำๆ อะไรเรื่องไหนที่ขุ่นหมองมัวจะปรากฏออกมาเป็นฉากๆ ให้สาธารณชนได้รับรู้เป็นช่วงๆ ใครที่ทำอะไรผิดๆ ไว้ใต้พรม ได้เวลาสะบัดพรมออก ใครดีใครร้ายอย่างไร ทุกอย่างจะปรากฏแบบแจ่มชัด แล้วก็ไร้การตอบโต้

ในวิถีการเมืองแบบนักการเมืองนั้น ในอดีตมักจะนิยมพูดในสิ่งที่ไม่ได้ทำ และทำในสิ่งที่ไม่ได้พูด ตลอดทั้งนิยมพูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียว หรือเวลาที่ทำความผิดแล้วจะบอกว่าไม่ๆ กระต่ายขาเดียว จนถูกไล่ต้อนจนมุมก็จะยอมรับแค่เพียงครึ่งเดียว พฤติกรรมแบบนี้จะหมดไปจากสังคมไทย ความชัดเจนมีมากขึ้นทางด้านคุณธรรมจริยธรรม

พระพุทธเจ้าทรงเคยตรัสว่า นครใดก็ตามถ้าผู้นำขาดซึ่งธรรมแล้ว นครนั้นจะเกิดสิ่งต่างๆ อาทิ ฝนตกต้องไม่ตามฤดูกาล เป็นต้น

เมื่อจริยธรรมคุณธรรมมาส่องแสงสาดใส่ดวงเมือง ต่อไปนี้ความยุติธรรมและความเป็นธรรมตลอดทั้งคุณธรรมจะนำหน้า นำแบบนี้ไปอีก 3 ปีทีเดียว เมื่อดาวพฤหัสย้ายแล้วไปปะทะกับดาวมฤตยูที่จรมากุมลัคนาราศีเมษอยู่นั้น ตามศาสตร์มอญรามัญให้คติว่า ความฉลาด เฉียบคม และ สติปัญญา ไหวพริบ จะดีเยี่ยม นำเอาสิ่งที่ดีๆ มาปรากฏในประเทศมากขึ้น

โดยมี 2 แนวทางให้เลือกปฏิบัติ ไม่ล้ำหน้ายุคสมัยสุด ก็กลับไปยึดคตินิยมจารีตเดิมแบบสุดๆ แต่ทั้งสองแนวทางด้านนั้นจะน้อมนำเอาคุณธรรมเป็นหลักเหมือนกัน ภาวะการณ์แบบนี้ระดับของเศรษฐกิจที่มีอาการทรงๆ ทรุดๆ เริ่มขยับตัวไปในแนวบวกมากขึ้น การค้าการลงทุนจะดีมากขึ้น

ลีลาดวงดาวแบบนี้คล้ายกับสมัยเติ้งเสี่ยวผิง ปกครองประเทศเทศจีน สุดท้ายจีนจึงกลายเป็นประเทศแบบหนึ่งประเทศสองระบบไปได้อย่างสมบูรณ์ คือ ปกครองแบบสาธารณรัฐแต่มีการค้าขายเสรีในระดับหนึ่ง แล้วก็ขยายขึ้นจนเติบโตทางด้านเศรษฐกิจมาจวบทุกวันนี้ ซึ่งโดยกรอบจารีตนั้น แตกต่างกันกับของประเทศไทย ผมจึงมองว่าประเทศไทยน่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นจากต่างชาติ แม้ไม่ได้มากมายอะไรก็ไม่น้อยกว่า 2 ปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

คำพยากรณ์นี้บอกได้คำเดียวสั้นๆ ว่า "ชัวร์"

ประเทศไทยของเราดีขึ้นอย่างไร้ข้อกังวล เมื่อคุณธรรมกลับมา พระสงฆ์องค์เณรก็จะมีแต่พระดีให้เรากราบไหว้ เรื่องที่ไม่ดีทั้งหลายก็จะหมดไป ดับไป ความเป็นไทยก็ค่อยๆ หล่อหลอมรวมความคิดโดยยึดในหลักธรรมมากขึ้น

หลักสถิติแบบนี้...ไม่ใช่เพิ่งมี แต่ทว่ามีมาช้านานแล้ว แต่จะอย่างไรก็ตาม เรื่องของโหราศาสตร์นั้นเป็นสิ่งที่มีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด มีผลเพียง 40% สูงสุดต่อทุกสรรพสิ่ง เพราะบนโลกใบนี้มีการสอดคล้องเคลื่อนไหวกับสรรพสิ่งมากมาย ไม่ใช่อะไรทั้งชีวิตก็ คือโหราศาสตร์

เหมือนที่มีคนชอบถามว่า ดวงไม่ดีจะแก้ดวงอย่างไร...ผมบอกเสมอว่า ไม่ต้องแก้อะไรทั้งนั้น เพราะดวงดาวเดินด้วยการเวลา เพียงแค่สวดมนต์ไหว้พระ จะที่บ้านหรือที่วัด ที่ไหนๆ ก็ได้ที่สะดวก ทำไปได้เลย สวดมนต์ภาวนาสมาธิมากๆ เดี๋ยวจากร้ายก็กลายคืนเอง

เพราะอานุภาพของการภาวนานั้น ทำให้ใจของเราเกิดเป็นกุศลล้วนๆ โดยที่ไม่ต้องไปยึดอะไรในเรื่องภายนอกเลย เน้นลงที่ใจ เน้นลงตรงนี้ให้มากๆ อะไรก็ไม่สามารถมาส่งผลกระทบกับเราได้อย่างมากมาย คนที่นั่งสวดมนต์ภาวนา ดวงดาวจึงส่งผลไปถึงเพียงแค่ 3-10% เท่านั้นเอง

ใครที่ปรารถนาเป็นคนเหนือดวงก็ต้องสวดมนต์ภาวนาให้มากๆ ชีวิตของคุณก็พึ่งดวงดาวได้อย่างน้อยลง ที่สำคัญบางครั้งก็ยังต้องยึดคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้เหนือเศียรเกล้าของเราด้วยว่า สรรพชีวิตทั้งหลายนั้น ย่อมเป็นไปตามกรรม การรู้เรื่องดวงดาวเหมือนไปรู้เรื่องกรรมของเขา แต่ทว่ารู้แล้วเราไปตัดไปทักไปรอนกรรมของเขา อันนี้ก็ต้องนำเอาความรู้ทางพระพุทธศาสนาเข้ามาเชื่อมโยง และมุ่งเน้นพัฒนาทางด้านจิตใจต่อไป เพื่อให้ใจเบาสบายและดีขึ้นนั่นเอง เมื่อใจเราดี เป็นพื้นที่ของกุศล เดี๋ยว สิ่งที่ดีๆ ย่อมจะตามมามากมาย ด้วยเพราะกรรมดีที่เราสร้างขึ้นนั่นเอง