posttoday

ลุ้นให้เดินหน้าธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน(ต่อ)

11 มิถุนายน 2560

จากการที่สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ตามรอยพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโขง

โดย...สมาน สุดโต

จากการที่สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 จัดโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ตามรอยพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโขง ระหว่างวันที่ 21 พ.ค.-4 มิ.ย. 2560 ได้รับความสำเร็จเกินคาดหมายนั้น ทำให้ผู้นำทั้งภาครัฐและพระสงฆ์เรียกร้องให้เดินหน้าต่อ ในขณะที่ สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันที่เป็นผู้ริเริ่มและดำเนินการโครงการนี้ เผยว่า อาจจัดปีเว้นปี แต่จะเปลี่ยนเส้นทางไปตามเมืองหลวงเก่า เช่น เว้ ในเวียดนาม เป็นต้น

ให้เดินหน้าต่อไป

พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในวันปิดโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ตามรอยพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโขง ที่วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ว่า รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการดีๆ อย่างนี้ ขอให้เดินหน้าต่อไป

พระธรรมวรนายก อายุ 83 ปี เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราช ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ที่เดินทางร่วมคณะธรรมยาตรา ตลอดเวลา 14 วัน กล่าวสัมโมทนียกถาว่า ได้เห็นศาสนธรรม พิธีกรรม ของชาวพุทธ ที่เรารับจากบรรพบุรุษและบูรพาจารย์ในอดีต ทั้งในประเทศไทย ลาว กัมพูชา เมียนมาเวียดนาม และเมียนมา พบว่าอยู่ในแนวทางเดียวกัน ต่างกันแต่สำเนียงเสียงสวดเท่านั้น แต่เมื่อล่ามถ่ายทอดออกมาก็มีความหมายเดียวกัน คือ เชื่อมั่นในหลักธรรม ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว เหมือนปลูกพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น

ส่วนมูลนิธิวีระภุชงค์และสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ที่ทำโครงการนี้ ก็มีองค์ประกอบสำคัญ คือ รัก เชื่อ ชอบ และช่วย จึงรวมพลังแบบร่วมด้วยช่วยกันให้พระพุทธศาสนาเจริญจากรุ่นสู่รุ่น วันนี้แม้จะเป็นวันปิดโครงการ แต่น่าจะเป็นวันเริ่มต้นขยายผลสู่ชุมชนรุ่นต่อไปมากกว่า

พระอาจารย์นาคะทีปะ เจ้าอาวาสวัดไจทีเซา สหภาพเมียนมา กล่าวขอบคุณที่ให้ร่วมงานสำคัญนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่ประกาศว่าเราชาวพุทธมีพ่อคนเดียวกัน และขอให้ส่งต่อพุทธธรรม คำสอนต่อไปเรื่อยๆ

ให้เชิญศรีลังการ่วม

พระธรรมปัญญาบดี (พีร์) สภานายกมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า โครงการนี้ที่ทำขึ้น ถูกต้องแล้ว ชอบแล้ว ขอให้ทำต่อไป แต่ขอให้เชิญศรีลังกาเข้าร่วมด้วย จะได้เป็นชาวพุทธ 6 ประเทศเป็นกลุ่มเป็นก้อน และขอชื่นชมโครงการนี้ที่จะเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลังได้ทำต่อไป และแสดงให้เห็นความเข้มแข็งของชาวพุทธ ถ้าหากมีอะไรข้างหน้าต้องช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาของเรา

พระอาจารย์ บุญปอน ศรศักดิ์สิทธิ์ แห่ง สปป.ลาว กล่าวว่า ชื่นชมชาวพุทธทุกประเทศที่ต้อนรับดีมาก

ลุ้นให้เดินหน้าธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน(ต่อ) พระธรรมปัญญาบดี (พีร์) กับผู้แทนคณะสงฆ์จาก 5 ประเทศร่วมพิธีปิดโครงการธรรมยาตรา ที่วัดสุวรรณภูมิ

จะไปเผยแผ่ต่อใน สปป.ลาว

ในขณะที่พระอาจารย์สีสุก เฉลิมกุล อายุ 34 ปี จากวัดศาลาแดง นครหลวงเวียงจันทน์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตลอดเวลา 14 วัน ที่ร่วมธรรมยาตรา ทัศนคติเปลี่ยนไป จากที่เคยคิดว่าไทยและลาวเท่านั้นที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง เมื่อเห็นประเทศอื่นๆ ได้พบว่าความเป็นอารยะแนวพุทธนั้นไม่มีขีดจำกัด ไม่สามารถวัดด้วยจำนวนวัดและนิกาย ทุกคนนับถือศาสนาเดียวกัน ปฏิบัติเหมือนกัน จึงได้ข้อคิดว่า บาปและบุญไม่มีประเทศ ไม่มีพรมแดน ดังนั้น เมื่อกลับ สปป.ลาว จะนำประสบการณ์ที่ได้จากโครงการนี้ไปเผยแพร่ตามสื่อที่ตนเป็นผู้ดำเนินรายการทั้ง ทีวีลาวสตาร์ และวิทยุ

พระอาจารย์บุญเฮง จาก กัมพูชา กล่าวว่า ในกัมพูชาเคยจัดโครงการธรรมยาตรา 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดเพื่อให้ประเทศกัมพูชามีความสงบสุข และหนที่ 2 เพื่อเผยแผ่และเรียกร้องให้ประชาชนมีความสามัคคี

สำหรับธรรมยาตรา 5 แผ่นดินที่ใช้เวลา 14 วันเดินทาง 5 ประเทศนั้น พิสูจน์ว่าคำสอนทางพระพุทธศาสนานั้นยิ่งใหญ่ เช่น สอนให้มีสติ ปัญญา สมาธิ และศรัทธา พร้อมกันนั้นได้สรรเสริญสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ว่า เป็นผู้เสียสละ ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา ช่วงที่เดินธรรมยาตราได้เห็นมูลนิธิวีระภุชงค์ ทุ่มเทช่วยเหลือทุกอย่าง ซึ่งจะส่งผลให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองตลอดไป

ให้ 95 คะแนน

พระเมธีวรญาณ (สายเพชร ป.ธ.9, Ph.D.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ที่ร่วมโครงการธรรมยาตรา ตลอด 14 วัน บอกว่า ประะทับใจที่เห็นชาวพุทธนานาประเทศมีศรัทธา มีความสามัคคี และถ้าจะให้คะแนนโครงการนี้ จะให้ถึง 95 จากคะแนนเต็ม 100 เพราะทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรบกพร่อง นอกจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่

เกษม มูลจันทร์ กรรมการและผู้ประสานงานโครงการ กล่าวว่า เคยมีความกังวลช่วงสำรวจเส้นทางในประเทศต่างๆ ว่าจะได้รับความสะดวกและความร่วมมือแค่ไหน แต่เมื่อถึงวันเคลื่อนขบวนปรากฏว่าได้การต้อนรับและการอำนวยความสะดวกจาก 5 ประเทศ เกินความคาดหมายจริงๆ นับว่าเป็นการจารึกประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาอีกหน้าหนึ่ง

ด้านสื่อมวลชนทั้งทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ จาก 5 ประเทศที่ติดตามทำข่าวตลอดโครงการ นอกจากเสนอข่าวสารให้ประชาชนในแต่ละประเทศได้เสพข่าวมงคลนี้แล้ว แต่ละคนประทับใจที่เห็นชาวพุทธทุกประเทศมีศรัทธาเหนียวแน่น ทำให้มั่นใจว่าศาสนาพุทธยังอยู่คู่กับสุวรรรณภูมิ และชาวโลกตลอดนิรันดร์กาล

ลุ้นให้เดินหน้าธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน(ต่อ) วินัย วีระภุชงค์ ประธานมูลนิธิวีระภุชงค์ มอบพระพุทธเมตตา แด่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกรประธานในพิธีปิดโครงการ ที่วัดสุวรรณภูมิ

สื่อมวลชนเห็นความอัศจรรย์

ตวงศักดิ์ ชื่นสินธุวล ผู้สื่อข่าวพิเศษหนังสือพิมพ์รายวันของไทยฉบับหนึ่งที่เดินทางตลอดเส้นทาง 14 วัน บอกว่า ในตัวเขาเองนั้นไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ แต่ทริปนี้ทำให้เขาเห็นความอัศจรรย์หลายอย่าง เช่น ฝนที่ตกหนักตามสถานที่ต่างๆ แต่เมื่อคณะธรรมยาตราไปถึงฝนก็หยุดตก ในขณะที่สื่อมวลชนประเทศต่างๆ ที่ร่วมคณะ ก็พูดกันว่า ไม่เคยเห็นโครงการแบบนี้ที่ดึงดูดความสนใจประชาชนชาวพุทธมาก เช่น ชาวพุทธในเวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมา ตื่นตัวมาต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นยิ่ง

นักรบของพุทธเจ้า

ตวงศักดิ์ บอกว่า เส้นทางที่ยาวไกลนั้นจะเรียกว่าโหดก็ได้ แต่เมื่อนึกว่าเราคือนักรบของพระพุทธเจ้า ก็เกิดปีติ ช่วยให้ทำงานได้ตลอดเส้นทางของโครงการ 14 วัน เป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ตวงศักดิ์ กล่าวย้ำ เมื่อเห็นชาวพุทธทุกประเทศมีศรัทธาเหนียวแน่นว่า ทำให้มั่นใจว่าศาสนาพุทธต้องอยู่คู่สุวรรณภูมิ และชาวโลกตลอดนิรันดร์กาลอย่างไม่ต้องสงสัย

พิธีจบหลังจากปลูกต้นโพธิ์

การปิดโครงการในวันที่ 4 มิ.ย. 2560 เมื่อ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ประธานฝ่ายฆราวาส พระธรรมปัญญาบดี สภานายก มจร ประธานฝ่ายสงฆ์ ประชาชนและพระสงฆ์ร่วมกันห่มผ้าจีวรพระมหาเจดีย์พุทธคยา ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และปลูกต้นหน่อพระศรีมหาโพธิ์ ที่นำมาจากพุทธคยาประเทศอินเดีย ณ วัดสุวรรณภูมิ โดยมี วินัย วีระภุชงค์ ประธานมูลนิธิวีระภุชงค์ และครอบครัว ซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์หลักของโครงการร่วมงานตลอด