‘ประยงค์’ มือปราบคอร์รัปชั่น ‘บ้านเมืองเราเจริญเพราะคนดี’
“มีพระเครื่องหลายชุดสลับสับเปลี่ยนกันแขวนแล้วแต่การทำงาน หลักๆ มีอยู่ 3 เส้น แขวนวนไปเรื่อย
โดย...เอกชัย จั่นทอง
“มีพระเครื่องหลายชุดสลับสับเปลี่ยนกันแขวนแล้วแต่การทำงาน หลักๆ มีอยู่ 3 เส้น แขวนวนไปเรื่อย สมัยก่อนลงพื้นที่ลุยปราบปรามยาเสพติดสารพัด สวมบทบู๊มาหลายสิบปีเกี่ยวกับงานด้านยาเสพติด เวลาลงจับยาต้องแขวนพระ 25 ศตวรรษ พระมเหศวร และหลวงปู่ทวด ทำงานทุกครั้งปลอดภัยอุ่นใจหมด”
ประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เจ้าของฉายา “มือปราบทุจริตคอร์รัปชั่น” เส้นทางชีวิตราชการเคยทำงานในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เริ่มตำแหน่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 1 ก่อนจะโยกมาเป็นผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค กทม. ต่อมาตัดสินใจโอนย้ายสังกัด ป.ป.ท. ในตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ท. กระทั่ง 27 มิ.ย. 2557 คสช.ออกคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ท.
ผลงานการันตีฝีมือ มือปราบทุจริตคอร์รัปชั่นท่านนี้พยายามกวาดล้างภาพทุจริตในภาครัฐ ลุยสางคดีสารพัดใต้พรมที่หมักหมม กระทั่งมีโอกาสขุดรากถอนโคนการทุจริตโครงการมาตรการเพิ่มรายได้แก่ชาวนาของรัฐบาลจนชาวนาเดือดร้อน เพราะมีข้าราชการคดโกงสุมหัวโกงเงิน นอกจากนี้ยังสาวไส้แก๊งทุจริตโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและนันทนาการของกรมพลศึกษา
ทั้งยังเป็นหัวเรือใหญ่คลี่คลายการทุจริตใช้งบประมาณ และการจัดซื้อจัดจ้างโครงการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจระบบส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ มูลค่าโครงการนับหมื่นล้านบาท โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนใน สพฐ. และคดีบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล
ในเรื่องพระคล้องคอคู่กาย ประยงค์ บอกว่า มีพระทั้งหมด 5 องค์ที่แขวน พระองค์แรก คือ 1.พระสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส 2.พระซุ้มกอ 3.พระคง ลำพูน 4.พระเลี่ยงเมือง และ 5.พระนางพญา ส่วนใหญ่เป็นพระของพ่อตาแม่ยายและพี่ชายมอบให้เป็นของขวัญสมัยแต่งงานเมื่อ 30 ปีก่อน
“ผมไม่ค่อยหาเช่าซื้อพระอยู่แล้ว เนื่องจากไม่มีความเชี่ยวชาญ และปัจจัยทางการเงินไม่ได้มีมากมาย พระเครื่องที่มีอยู่ก็ตกทอดมาจากพ่อแม่ทั้งสิ้น จะให้เช่าหามาก็คงไม่ถึงกับขนาดนั้น”
เลขาธิการ ป.ป.ท. บอกอย่างแน่วแน่ว่า พอมาทำเรื่องทุจริต เป้าหมายก็หวังเพื่อเอาชนะพวกคนทุจริตคนโกง พระเครื่องเป็นพึ่งทางใจ จึงเชื่อว่าพระจะทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย เตือนสติให้คิดดีทำดี
“คนที่แขวนพระเยอะแต่ปฏิบัติไม่ดี ยังไงพระก็ไม่คุ้มครองอยู่แล้วล่ะ จริงแล้วมันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า พระคือเครื่องเสริมความมงคลในชีวิต การจะเป็นคนดีไม่ดีมันอยู่ที่ตัวเรา ไอ้คนไม่ดีแขวนพระดีๆ เยอะแยะ แต่พระก็ไม่อยู่หรอก”
สำหรับ ประยงค์ เขาเล่าหัวใจหลักของการทำงานว่า ยึดต้นแบบทำงานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เคยให้พระบรมราโชวาทไว้ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วันที่ 11 ธ.ค. 2512 ใจความว่า
“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
จึงนำข้อความในพระบรมราโชวาทติดหน้าห้องทำงาน คอยเตือนสติว่าอันนี้คือหน้าที่ที่เราต้องทำให้ได้
“เพราะผมยึดว่าบ้านเมืองเราเจริญมาได้จนทุกวันนี้ก็เพราะคนดี ที่มันแย่มันเดือดร้อนก็เพราะคนไม่ดี เพราะฉะนั้นเมื่อมีตำแหน่งหน้าที่ตรงนี้ก็ต้องทำให้ดีให้เต็มที่ที่สุด”
การทำงานจะไม่สร้างจุดอ่อนให้ตัวเอง ไม่เอาเปรียบ ไม่เบียดเบียนใคร พยายามทำสิ่งที่ไม่เป็นภาระทางสังคม เพราะเรามาจากต้นทุนทางครอบครัวธรรมดา ที่สำคัญเลือกการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง จึงไม่จำเป็นต้องไปเอาเปรียบใคร เมื่อได้รับโอกาสให้มาทำงานปราบปรามทุจริตก็ต้องทำให้เต็มที่ “ถ้าเราไม่ทำประเทศชาติจะเสียโอกาส”
ถ้ามีหน้าที่โดยตรงแล้วไม่ทำใครจะทำ คนไทย 60 กว่าล้านคน เขาไม่ได้มีหน้าที่อย่างผมโดยตรง เพราะฉะนั้นเมื่อมีโอกาสได้มาทำก็ต้องทำให้เต็มที่ รักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง