น่าห่วง พรบ.สงฆ์ อาจขัดพระราชศรัทธา?
ไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ และร่างพระราชบัญญัติสภาพุทธบริษัทให้
โดย...สมาน สุดโต
ไพบูลย์ นิติตะวัน เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินของวัดและพระภิกษุ และร่างพระราชบัญญัติสภาพุทธบริษัทให้ สนช.รับไปพิจารณา ถ้าหาก สนช.เห็นด้วยกับร่างที่ว่านี้ สภาพวัด และฐานะของพระสงฆ์จะเปลี่ยนไปวัดจะร้างมากขึ้น พระสงฆ์ที่น้อยอยู่แล้ว จะน้อยลงอีก และน่าห่วงว่า พ.ร.บ.นี้จะขัดพระราชศรัทธา
หลักการและเหตุผลที่ไพบูลย์อ้างในการเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ ฟังได้ในเหตุที่เกิดในปัจจุบันและกับบางวัดในเมืองหลวง แต่ถ้าไปดูชนบท พ.ร.บ.แบบไหนก็ไม่มีความหมาย บางจังหวัดในภาคเหนือต้องให้สามเณรมาเป็นสมภาร (ชั่วคราว) ญาติโยมต้องผลัดเปลี่ยนกันไปนอนเฝ้าวัดเพราะไม่มีใครบวช
ส่วนที่ว่าพระโอนทรัพย์สินที่ได้มาในขณะที่บวชอยู่ในสมณเพศ จำหน่ายหรือทำพินัยกรรมยกให้บุคคลอื่นได้ มีสักกี่ราย เห็นแต่สมภารบางวัดขนไปแจกจ่ายวัดและโรงเรียนในชนบท ถามสมภารวัดหลวงพ่อโอภาสี บางมดดูก็ได้
ถ้าพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้แบบชาวบ้าน มองไม่เห็นว่า พ.ร.บ.จะมีคุณต่อพระศาสนาและพระสงฆ์ ดูง่ายๆ ถ้า พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับ งบประมาณที่รัฐบาลจัดถวายสมเด็จพระสังฆราชปีละหลายสิบล้านบาทจะ
หมดไป เจ้าอาวาสที่เป็นพระสังฆาธิการ และเป็นเจ้าพนักงานโดยตำแหน่งหน้าที่ ตั้งแต่พระหลวงตาจนถึงสมเด็จพระสังฆราชที่ได้รับพระราชทานนิตยภัตที่หลวงจัดถวายทุกเดือน (เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในวัด เช่น ค่าน้ำค่าไฟ) ซึ่งตกทอดมาหลายรัชกาลแล้ว จะต้องหยุดเพราะ พ.ร.บ.นี้ ไม่ส่งเสริมพระราชศรัทธาของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อสถาบันพระสงฆ์
เมื่อพระหนุ่มเณรน้อยที่เรียนบาลีเก่งได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงก็รับไม่ได้ เพราะขัดกับ พ.ร.บ.ฉบับนี้
น่าสงสารวัดสวยๆ งามๆ ที่โบราณสร้างไว้จะไม่มีพระอยู่ วัฒนธรรม ประเพณีชาวพุทธค่อยๆ หดหายไป สังคมที่เกื้อกูลกันระหว่างพระและชาวบ้าน (คือ ทำบุญตักบาตร ทอดกฐินผ้าป่า) ก็หมดเพราะพระสงฆ์ไม่มีเฝ้าวัด
ส่วนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด (ที่ยังมีพระอยู่) อาจหยุดชะงัก เพราะสมภารที่รับภาระบริหารวัดหมดอำนาจ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่กรรมการที่จะตั้งขึ้นมา วัดอาจทรุดโทรมมากขึ้น และจะร้างมากขึ้น
ขอสรุปว่า พ.ร.บ.ที่ไพบูลย์เสนอมา ไม่ส่งเสริมพระราชศรัทธา ทำลายวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธอย่างแน่นอน เอวัง