posttoday

กรณี พระคึกฤทธิ์...

29 มกราคม 2560

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา มีข้อความสั้นๆ ถึงอาตมาว่า “กราบนมัสการ...จากบทความในไทยโพสต์

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา มีข้อความสั้นๆ ถึงอาตมาว่า “กราบนมัสการ...จากบทความในไทยโพสต์ คอลัมน์ปักธงธรรม ฉบับวันศุกร์ที่ ๑๓ ก.พ. ๒๕๕๘ เรื่อง วิถีการศึกษาเพื่อชีวิต สู่ปัญหา กรณีพระคึกฤทธิ์ ได้มีคณะศิษย์ท่านคึกฤทธิ์นำไปแชร์ต่อ โดยพูดในเชิงว่า พระอาจารย์อารยวังโสกล่าวสนับสนุนพระอาจารย์คึกฤทธิ์ จึงเรียนมาเพื่อทราบ ตอนนี้พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ท่านถูกต่อต้านจากญาติโยมเรื่องการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยหลายประเด็นครับ...”

จากเรื่องดังกล่าวทำให้ต้องกลับไปรื้อค้นต้นฉบับที่เขียนไปตั้งแต่สองปีที่แล้วมาอ่านดูอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนั้นได้มีกระแสต่อต้านพระคึกฤทธิ์ กรณีนำเสนอพระพุทธวจนะส่วนเดียว ฯลฯ จึงให้สติกับทุกคนที่ไม่เห็นด้วยว่า เป็นเรื่องธรรมดาบนเส้นทางสืบอายุพระศาสนาตั้งแต่พุทธปรินิพพาน จึงมีการทำสังคายนากันหลายครั้ง เพื่อรักษาพระธรรมวินัยดั้งเดิมไว้ให้ได้ ด้วยความรับผิดชอบของคณะสงฆ์ กลุ่มพุทธวจนะที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่ ในอดีตหลังพุทธปรินิพพาน ๑๐๐ ปี องค์กรสงฆ์แตกเป็นสองคณะใหญ่ มีถึง ๑๘ นิกาย และ ๑ ใน ๑๘ นิกาย คือ นิกายพุทธวจนะ

ที่สำคัญ ในทุกปัญหาที่เกิดมีขึ้นในพระศาสนา ควรแก้ไขด้วยสติปัญญาและความรู้ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยในทุกยุคสมัย และเป็นหน้าที่หลักของคณะสงฆ์ที่จะต้องหาวิธีการยุติปัญหาการเผยแพร่ที่บิดเบือนพระธรรมวินัย

บทสรุปของอาตมาต่อกรณีพระคึกฤทธิ์ คือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดมีพระภิกษุ บุคคลใด คณะใด เมื่อศึกษาปฏิบัติแล้วอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างออกไป แต่จะต้องไม่บิดเบือนพระธรรมวินัย และที่อาตมาย้ำคือ ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้ไขด้วยความรับผิดชอบของมหาเถรสมาคม ที่มีพระเถรานุเถระทรงภูมิความรู้ในปริยัติธรรม ปฏิบัติก็มีพระวิปัสสนาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตรงตามพระธรรมวินัย ที่สามารถตรวจวัดผลได้ ปัญหาทุกข้อแก้ได้ด้วยองค์กรสงฆ์ที่มีอำนาจทั้งพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมืองรับรอง

สำหรับในเรื่องส่วนตัวว่า ท่านคึกฤทธิ์ประพฤติปฏิบัติตนเป็นอย่างไรนั้น ไม่ใช่หัวข้อวินิจฉัยในข้อเขียนของอาตมา เพราะขณะนั้นมิได้เป็นข่าวสารเรื่องพฤติกรรมส่วนตน ดังปรากฏในขณะนี้ ที่สำคัญ อาตมาไม่เคยรู้จักเป็นส่วนตัวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์เลย ไม่เคยพบเห็นกันเลย เว้นภาพตามสื่อ

ขอสาธุชนสบายใจได้ว่า หากมีพระภิกษุรูปใดประพฤติผิดพระธรรมวินัย อาตมาไม่สามารถไปสนับสนุนได้ เพราะเป็นอาบัติใหญ่ เป็นการทำลายพระศาสนา แต่อาตมาหวังว่า สาธุชนในศาสนานี้ ควรใช้สติปัญญาและใช้ช่องทางที่ถูกต้องโดยพระธรรมวินัยโดยกฎหมาย เพื่อจัดการสะสางปัญหาดังกล่าวให้หมดไป เพื่อช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาที่แท้จริงไว้ให้สืบต่อไป และอาตมาเชื่อว่าองค์กรสงฆ์จะต้องเข้าไปดูแลทุกปัญหา เพื่อทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีผู้ทำศาสนาเสื่อมเกิดขึ้นในสังฆมณฑลนี้ เพราะหากปล่อยให้พระภิกษุเล่าเรียนสูตรอันถือกันมาผิด ด้วยบทพยัญชนะ ความหมายที่คลาดเคลื่อน หรือเกิดภิกษุว่ายาก ไม่ยอมรับคำตักเตือนโดยความเคารพ หรือหากภิกษุที่มีความรู้ ทรงธรรม ทรงวินัย เป็นต้น ไม่ได้เอาใจใส่บอกสอนผู้อื่น หรือพวกพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ทั้งหลาย มัวแต่ยุ่งอยู่กับการสั่งสมบริขารวัตถุกาม จัดแต่ปลุกเสกวัตถุมงคลตามเดรัจฉานวิชา ละทิ้งพุทธธรรมมงคล ประพฤติย่อหย่อนไตรสิกขา เป็นผู้นำในทางทราม ไม่เหลียวแลในกิจวิเวก ไม่ปรารภความเพียร ฯลฯ นี่ย่อมเป็นมูลเหตุที่ทำให้เกิดมี “ผู้ทำศาสนาเสื่อม” และทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนเสื่อมสูญไป...เอวัง

เจริญพร

[email protected]