posttoday

พระแท้อยู่ที่ใจกราบไหว้ได้ตลอดเวลา

18 ธันวาคม 2559

อยากรู้จักพระแท้ไหมว่าเป็นอย่างไร คำตอบที่พระมงคลธีรคุณ (อินศร จินฺตาปญฺโญ) รองเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม

โดย...ส.คนจริง

อยากรู้จักพระแท้ไหมว่าเป็นอย่างไร คำตอบที่พระมงคลธีรคุณ (อินศร จินฺตาปญฺโญ) รองเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม บรรยายให้ญาติโยมฟังตามโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ทำให้เห็นว่า พระแท้อยู่ที่ไหน “พระ” หมายถึง “ผู้ประเสริฐ” เมื่อใดพนม 2 มือ จรดระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วอยู่ที่ศีรษะ ถือว่าเป็นสิริมงคลที่ได้ไหว้พระ ไม่ว่าจะเป็นพระแบบไหนก็ล้วนแต่เป็นมงคลเพราะไหว้ด้วยใจ ไหว้ด้วยจิตที่คิดดี มีศรัทธา ย่อมเป็นมงคลกับชีวิตทั้งสิ้น 

ท่านว่าเมื่อ “ไหว้พระ” ไม่ต้องคิดว่า พระนั้นแท้หรือไม่? แต่ทุกครั้งที่ได้ไหว้พระ จะเป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้ปฏิบัติ คิดสร้างความดี ปฏิบัติดี แล้วหมั่นเพียรทำดี อันจะนำไปสู่ความสุข ความสำเร็จในชีวิต

เราอยู่ในเมืองไทย พบผู้คนมากมาย ส่วนพระสงฆ์ไทยมีมากกว่า 3 แสนรูป จะมองอย่างไรถึงจะรู้ว่า นั่นคือพระแท้หรือพระปลอม ความจริงเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก พระพุทธองค์ตั้งองค์กรสงฆ์ขึ้นมา มองว่าบุคคลที่จะเข้ามาสู่องค์กรนี้ได้ ต้องมีความพร้อมในการเสียสละ ละกิเลส และเป็นตัวแทนผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม และนำคำสอนมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชนให้หลุดพ้นจากความทุกข์ รวมทั้งมีความรู้ที่จะตัดกิเลสให้เบาบางลงไปได้ และเป็นบุคคลที่ประชาชนเห็นแล้วก็สบายใจ (นี่คือลักษณะพระแท้ครั้งพุทธกาล)

เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงพระธรรมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ว่าด้วยทางสุดโต่ง 2 ทาง ไม่ใช่ทางตรัสรู้ แต่ทางสายกลาง คือ มรรคมีองค์ 8 เท่านั้นเป็นทางตรัสรู้ คือมี สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบได้เห็นปัญญาแจ้ง สัมมาสังกัปปะ ความดำริชอบไม่พยาบาท ไม่เบียดเบียน สัมมาวาจา การที่ไม่พูดเท็จ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่ส่อเสียด สัมมากัมมันตะ การงานชอบ มีความประพฤติชอบสุจริต ไม่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีพชอบ คือ ประกอบอาชีพในทางที่ถูกที่ควร ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สัมมาวายามะ เป็นความเพียรชอบที่ต้องเพียรละเว้นต่อบาปและทำกุศล สัมมาสติ ความระลึกชอบ คือ การระลึกต่อการเจริญสติ ไม่ให้สอดส่ายไปคิดเรื่องผู้อื่น สุดท้าย สัมมาสมาธิ ความตั้งใจชอบ ให้จิตตั้งมั่นแน่วแน่

ดังนั้น มรรค 8 นี้จัดว่าอันเป็นคุณสมบัติของพระแท้ เป็นทางสายกลางที่จะนำให้ผู้ปฏิบัติถึงแก่ทางพ้นทุกข์ เกิดศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งพระพุทธเจ้าได้แสดงแก่พระภิกษุสงฆ์เพื่อให้พิจารณาระลึกต่อหน้าที่ภิกษุสงฆ์ อาทิ กิริยา วาจา ต้องระวังสำรวม ประพฤติพรหมจรรย์ ถูกตามธรรมวินัย ละทิ้งความรัก โลภ โกรธ หลง แต่ให้ยินดีต่อการประพฤติดี ก้าวสู่ความมีคุณธรรม ละความชั่ว นี้คือเรื่องพระภิกษุสงฆ์ที่จะต้องคำนึงและตักเตือนอยู่เสมอ

ได้ยินเรื่องดี จึงเอามาฝาก ดับทุกข์เรื่องที่ดีเอสไอจะจับพระได้หน่อยหนึ่ง เพราะท่านตบท้ายว่า

 “ถ้าหากได้เข้าใจประเด็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าฝากไว้ ใช้ธรรมะเป็นเครื่องสดับในการเตือนใจ ใช้ชีวิตไม่ประมาทในการทำดีสม่ำเสมอ ก็จะเห็น ‘พระแท้ ที่จิตใจ’ อยู่ที่ใดก็สามารถกราบไหว้ได้อย่างบริสุทธิ์ใจ”