posttoday

สัญชีวะ...นรกที่ไม่มีวันตาย

22 พฤศจิกายน 2552

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม

มนุษย์ทุกวันนี้ทำบาปหรือความชั่วไม่เว้นแต่ละวัน ทำร้าย กักขัง หน่วงเหนี่ยวคนอื่นให้ขาดอิสรภาพ ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าคนอื่น ทุจริต คอร์รัปชัน ฉ้อโกง ลัก จี้ ปล้น ชิงทรัพย์ ต้มตุ๋น คบชู้สู่ชาย นอกใจภรรยาสามี วางแผนฆ่าสามีเพื่ออยู่กับหญิงอื่น วางแผนฆ่าภรรยาเพื่ออยู่กับชายอื่น ล่อลวงลูกเมียคนอื่นไปรุมโทรม ข่มขืน กระทำอนาจาร พูดปดมดเท็จ โกหกคนทั่วบ้าน ด่าว่า ให้ร้าย เสียดสีคนอื่นเป็นอาจิณ เสพค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ ลักเด็ก ทำร้ายจิตใจคนเป็นพ่อแม่

ครั้นพอทำแล้วบาปนั้นก็เล่นงานเผาผลาญใจของตนให้เร่าร้อนกระวายกระวน เช่น น็น็นอนไม่สุข อยู่ไม่สุข เพราะบาปที่ทำคอยกระทุ้งใจตลอดเวลา และแม้ตัวจะหนีความผิด หนีการรับโทษไป ณ ที่ใด ไกลแค่ไหน หรือด้วยวิธีใดๆ

หากจะรอดเงื้อมมือกฎหมายบ้านเมืองก็ไม่มีทางที่จะรอดพ้น “กฎแห่งกรรม” นั่นคือจะต้องรับผลของกรรมชั่วที่ก่อไว้อย่างแน่นอน ไม่ต้องรอชาติหน้า แค่ชาตินี้ผู้นั้นก็ประจักษ์ในผลของมันด้วยตัวเองอยู่แล้ว และเมื่อตายไปแล้วก็ไม่แคล้วที่จะต้องไปเสวยผลกรรม

เพราะขณะมีชีวิต ชีวิตของผู้นั้นก็เป็นทุคตชีวิต คือ ไม่มีความสุข มีแต่ความทุกข์ใจ ความไม่สบายใจ และหากว่าตายไปแล้วก็ไม่แคล้วต้องไปเสวยผลของกรรมชั่วนั้นๆ ในนรกขุมต่างๆ ขึ้นอยู่กับความชั่วที่ทำ

ทั้งนี้ ในไตรภูมิได้กล่าวถึงนรกไว้ 2 ประเภท คือ นรกใหญ่ หรือ มหานรก มีจำนวน 8 ขุม ประกอบด้วย สัญชีวะ (สัญชีพ) กาฬสุตตะ สังฆาฏะ โรวุวะ มหาโรรุวะ ตาปะ มหาตาปะ และอเวจี (อวีจี)

อีกประเภทหนึ่ง นรกบ่าว หรือนรกขุมเล็กๆ จัดเป็นนรกบริวารซึ่งมีจำนวนมากแต่ที่ระบุไว้มี 16 ขุม ประกอบด้วย เวตรณี สุนขะ สโชติ อังคารกาสุ โลหกุมภี อโยทกะ ถุสปลาสะ สัตติหตะ พิลสะ โปราณมิฬหะ โลหิตปุพพะ โลหพิลสะ สังฆาฏะ อวังสิระ โลหสิมพลี และมิจฉาทิฏฐิ และมีนรกพิเศษอีกขุมหนึ่ง คือ โลกันตะ หรือโลกันตริก

พูดถึงนรกใหญ่ขุมแรก สัญชีวนรก หรือ นรกสัญชีพ ท่านว่าผู้ที่มาตกนรกขุมนี้แม้จะได้รับการลงโทษต่างๆ นานาจนตายแล้วก็จะกลับมีชีวิตฟื้นขึ้นมาอีกเพื่อรับโทษทัณฑ์จากนายนิรยบาลต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสิ้นกรรม

เรียกว่าเดี๋ยวตาย เดี๋ยวคืนชีพเพื่อรับโทษอยู่อย่างนั้น

จะบอกว่าชาวนรกนี้ว่าไม่มีวันตายก็คงไม่ผิด เพราะแม้ว่าจะเสวยทุกข์แสนสาหัสจนขาดใจตายคาที่อย่างไรก็กลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่เพื่อรับโทษต่อไป เป็นๆ ตายๆ อย่างนี้

อีกอย่างหนึ่ง ชาวสัญชีวนรกจะไม่มีอาชีพการงานที่ต้องทำมาหาเลี้ยงชีวิตเหมือนอย่างมนุษย์ แต่มีหน้าที่เดียวที่ต้องทำคือ ก้มหน้าก้มตารับผลกรรมจากที่ตัวเองเคยทำไว้

ในไตรภูมิเล่าว่า สัตว์นรกพวกนี้บางพวกได้รับการลงโทษจากนายนิรยบาลโดยการถูกจับมัดให้มั่น บังคับให้นอนลงเหนือแผ่นเหล็กแดงด้วยไฟนรก จากนั้นนายนิรยบาลก็เอาดาบคมฟาดฟันกายของเขาให้ขาดเป็นท่อนๆ บางทีก็เอามีดเอาขวานคอยถากเฉือนเนื้อตามร่างกายของสัตว์นรกทีละน้อยๆ จนกระทั่งเนื้อหนังมังสาหมดไป เหลือแต่เพียงโครงกระดูกขาวโพลน ทำให้สัตว์นรกพวกนั้นได้รับโทษทรมานจนกระทั่งสิ้นใจตายไปในที่นั้นเอง จากนั้นก็มีลมชนิดหนึ่งเรียกว่า “ลมกรรม” โชยพัดมาต้องกายสัตว์นรกนั้นให้กลับมีชีวิตเหมือนเดิม พอนายนิรยบาลเห็นอีกก็จับมาทรมานเหมือนเก่าจนกว่าสัตว์นรกนั้นจะสิ้นกรรม

แต่สัตว์นรกบางจำพวกด้วยอำนาจกรรมทำให้มีนิ้วมือแปลกพิลึก คือ มีนิ้วมือเป็นอาวุธ เช่น หอก ดาบ พอมาพบสัตว์นรกอื่นแทนที่จะสงสาร ก็ตรงเข้าใส่ฟันแทงด้วยความโกรธเป็นวรรคจนต้องตายไปข้าง มิหนำนายนิรยบาลก็ร่วมสงเคราะห์ด้วย 

นี่คือชีวิตของพวกสัญชีวนรก ซึ่งสัตว์นรกพวกนี้มีเกณฑ์อายุอยู่ที่ 500 ปี ท่านว่าหากเทียบกับเวลามนุษย์จะอยู่ที่ 9 ล้านปี

ท่านว่าคนที่มาลงนรกขุมนี้ตอนที่เป็นมนุษย์นั้นเป็นคนมีจิตใจสกปรก หยาบช้า ชอบก่อกรรมทำชั่วต่างๆ เช่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบียดเบียนผู้อื่น ครั้นสิ้นชีวิตแล้วกรรมชั่วนั้นจึงนำพาให้มาเกิดในสัญชีวนรก...แดนที่ไม่มีวันตายแห่งนี้