posttoday

การคณะสงฆ์ในอดีต

07 สิงหาคม 2559

หนังสือการคณะสงฆ์ ซึ่งประมวลพระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

โดย...ส.สต

หนังสือการคณะสงฆ์ ซึ่งประมวลพระนิพนธ์สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส  ซึ่งมหามกุฏราชวิทยาลัย พิมพ์ในงานมหาสมณานุสรณ์ 50 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ 1-7 ส.ค. 2515 มีเรื่องน่าศึกษาจำนวนมาก บางเรื่องยังทันสมัย เช่น เรื่องที่ยกขึ้นปรึกษาในที่ประชุมเจ้าคณะมณฑล พ.ศ. 2456  ดังนี้

งดบอกถวายพระราชกุศลไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ได้เห็นรายงานถวายพระราชกุศล ไม่เป็นชิ้นเป็นอันหนาตา ที่สุด ภิกษุปฏิสังขรณ์กุฎีที่ตนอยู่เองจ่ายมูลค่าไม่กี่สิบบาท ก็บอกถวายพระราชกุศล จ้างอาจารย์บอกปริยัติธรรม มีภิกษุหรือสามเณรเรียนสัก 5 รูป เรี่ยรายได้ไม่กี่สิบบาท ก็บอกถวายพระราชกุศล ทำกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว นึกถึงพระเจ้าแผ่นดินของตน ด้วยความจงรักภักดี เป็นการดีอยู่ แต่การบอกถวายพระราชกุศลเช่นนี้ อยู่ข้างจะเฝือ พาให้การถวายพระราชกุศลเป็นชิ้นเป็นอันจืดไปด้วย

ธรรมเนียมเก่า ทำกุศลเล็กน้อย นึกถึงสัตยาธิษฐานถวาย พระศีลพระพรอย่างนี้ก็ดีอยู่ เจ้าคณะมณฑลควรสอดส่อง ให้ถวายเป็นชิ้นเป็นอันสักหน่อย

ระวังอย่าใช้ผู้น้อยข้ามผู้ใหญ่

ได้เคยเห็นมา พระครูปลัดของเจ้าคณะ อาจจะบังคับพระราชาคณะวัดขึ้นก็มี พระครูปลัดเห็นปานนั้น มักไม่ใช่พระสุภาพ เห็นไม่สมควร แม้เมื่อจัดคณะมณฑลขึ้นแล้ว เจ้าคณะมณฑลบางรูป ก็ยังติดอยู่ในธรรมเนียมนั้น พอใจจะใช้ฐานานุกรม ออกตรวจการคณะต่างตน นี่แปลว่า บังคับเจ้าคณะเมืองได้ บางรูปถึงยกย่องในตำแหน่งรองเจ้าคณะมณฑล กิริยาที่ยกย่อง ผู้น้อย ข้ามผู้ใหญ่นั้น ไม่ดีไม่งามเลย เจ้าคณะมณฑลควรจะประหยัด ควรไว้หน้าผู้ใหญ่ที่ได้ยกย่องขึ้นไว้นั้น (หมายเหตุ : พ.ร.บ.ลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 มาตรา 5 ให้การปกครองคณะสงฆ์แบ่งออกเป็นมณฑล ให้มีเจ้าคณะมณฑล ปกครอง ซึ่งมี 14 มณฑล นับแต่มณฑลกรุงเทพ ถึงมณฑลนครศรีธรรมราช ส่วนพระเถระที่เป็นเจ้าคณะมณฑล เป็นพระเถระส่วนกลาง คือพระเถระวัดราชประดิษฐ์ วัดสุทัศน์ วัดระฆัง วัดมกุฏกษัตริย์  วัดประยุวงศาวาส วัดมหาธาตุ วัดเทพศิริน ทราวาส วัดบวรนิเวศวิหาร (2 รูป 2 มณฑล) วัดพิชยญาติการาม  เว้นมณฑลกรุงเก่า เป็นพระเถระวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ มณฑลอีสาน เป็นพระเถระวัดสุปัฏนาราม และนครศรีธรรมราช เป็นพระเถระวัดท่าโพธิ์)

เรื่องสอบสวนคนบวช

ในรายงานประชุม ข้าหลวงเทศาภิบาลแผนกพระศาสนา ในศก 2455 ข้อ 2 ค. เรื่องป้องกันคนหนีบวช มีว่า ขอให้สมุหเทศาภิบาลออกประกาศว่า คนจะบวชในวัดใด ต้องเข้าหาเจ้าวัดนั้นก่อน เมื่อได้รับให้เข้าวัดแล้ว จึงมาขออนุญาตต่อนายอำเภอ ให้นายอำเภอสอบสวนให้ได้ความจนเชื่อได้ก่อน จึงให้ใบอนุญาตนั้น เจ้าหน้าที่มักเข้าใจผิดไปว่า ให้เจ้าอาวาสรับรอง กล่าวคือเป็นประกัน ความข้อนั้นไม่ได้หมายอย่างนี้ หมายว่า คนไปขอใบอนุญาตอุปสมบทต่อนายอำเภอ บอกว่าจะอุปสมบทและอยู่วัดชื่อนั้น นายอำเภอยังไม่ควรออกใบอนุญาตให้ทันที ความสอบถามต่อไปอีกว่า เจ้าวัดนั้นท่านรับแล้วหรือ คือยอมให้อยู่ในวัดนั้นแล้วหรือ ถ้าเขารับ ควรหาหลักฐานที่เชื่อได้ ที่แปลว่า ผู้นั้นจะต้องได้สำคัญจากเจ้าอาวาส เป็นเครื่องพิสูจน์ ในเรื่องนี้ที่เมืองสุพรรณบุรี จัดอย่างนี้เมื่อคนไปขออนุญาตอุปสมบทต่อนายอำเภอ เขาสืบสวนชื่อเสียงของคนนั้นก่อน จดลงในช่องหมายเหตุข้างหนึ่ง แล้วส่งไปให้เจ้าวัด ที่คนนั้นพอใจจะบวชและอยู่ ถ้าเจ้าวัดนั้นยอมรับให้อยู่ ลงชื่อรับในหมายเหตุอีกข้างหนึ่ง เมื่อได้พร้อมทั้ง 2 ประการ อย่างนี้แล้ว นายอำเภอจึงออกใบอนุญาตให้อุปสมบท เรื่องนี้เจ้าคณะมณฑลควรเข้าใจตลอด จะได้อธิบายแก่เจ้าหน้าที่ และไม่ปล่อยให้เจ้าอาวาสผูกตัวเกินไป

คนหลอกพระ

เรื่องคนหลอกลวงพระมิใช่มีในสมัยนี้ แต่สมัยรัชกาลที่ 5-6 ก็มี ดังเรื่องแจ้งความเพื่อระวังถูกลวง มีความว่าพระมหานายก เจ้าคณะปลัดมหาสังฆปริณายก รับพระดำรัสเพื่อแจ้งความแก่พระสงฆ์ เมื่อเสด็จตรวจมณฑลพิพิษณุโลกว่า มีชายหนุ่มชื่อบุญช่วย อีกคนชื่อมณี ถือหนังสือปลอมไปหาพระอธิการดี วัดหมื่นรักษ์ ว่าเป็นมหาดเล็กของสมเด็จมหาสมณะ รับสั่งให้ถือลายพระหัตถ์มาเพื่อป่าวร้องว่า จะทรงแจกผ้ากราบและย่ามแก่พระทั่วไป ถ้าเป็นพระอธิการจะประทานพัดด้วย ให้เก็บเงินรูปละ 1 บาท พระวัดหมื่นรักษ์หลงเชื่อ 11 รูป

มอบให้นายเกิดศิษย์วัดถือตามพระชุ่มรองเจ้าอาวาสไป นายบุญช่วยพาพระชุ่ม กับนายบุญเกิดไปที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วบอกให้คอยอยู่ที่นั่น เขาจะไปกราบทูลก่อน เสด็จอยู่ที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ขอบัญชีพระผู้ออกเงินไปด้วย สักครู่ถือบัญชีพระสงฆ์กลับมา ลงชื่อพระยาชัยออนุรักษ์ บอกพระชุ่มให้รอ พานายเกิดไปถึงหอรัษฎากรพิพัฒน์  เรียกเงินจากนายเกิด ทำทีว่าจะเอาไปส่งแล้วเอาผ้ากราบ กับย่ามมาให้ นายเกิดหลงเชื่อมอบเงินให้ทั้งหมด คอยอยู่เชิงบันได นายบุญช่วยรับเงินแล้วขึ้นบันไดหอหายไป

นายบุญเกิดรออยู่ 2 ชั่วโมงเศษ ไม่เห็นนายบุญช่วยกลับมา จึงไปบอกพระชุ่มแล้วพากันกลับวัดหมื่นรักษ์  พระวัดนั้นจึงรู้ว่าถูกลวง

ต่อมา นายบุญช่วยได้ไปหลอกเอาเงินพระวัดทองได้ไป 2 บาท และได้ไปลวงพระอธิการชื่นวัดสุทธาวาส หรือวัดดุสิต แต่คราวนี้จะเอารูปละ 6 บาท  พระอธิการชื่นว่าเก็บไม่ทัน ผัดวันต่อไป ต่อมาพระอธิการชื่นได้รับหนังสือปลอมเป็นลายพระหัตถ์ สมเด็จพระมหาสมณะฯ ทางไปรษณีย์ ความว่าเจ้าพนักงานจะมาเก็บเงินค่าผ้ากราบและย่าม อย่าขัดขืน พระอธิการชื่นนำหนังสือนั้นมอบพระราชสุธี เจ้าคณะแขวงบางกอกน้อย เมื่อนายบุญช่วยมา พระอธิการชื่นไปเรียกพลตระเวนมาเอาตัวไป พนักงานรักษาพระอัยการเป็นโจทก์ฟ้องข้อหาปลอมลายพระหัตถ์ คดีขึ้นถึงศาลฎีกา ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี

เรื่องแบบนี้ยังมีอยู่วันนี้ แต่ถูกลวงเรื่องสมณศักดิ์