posttoday

ตำแหน่งที่ตั้งยากเย็น

07 สิงหาคม 2559

วันที่ 10 ส.ค. 2559 คนธรรมดาสามัญทั่วไปถือว่าเป็นวันปกติธรรมดา แต่ถ้าเป็นศิษย์วัดสระเกศ

โดย...ส.คลองเตย

วันที่ 10 ส.ค. 2559 คนธรรมดาสามัญทั่วไปถือว่าเป็นวันปกติธรรมดา แต่ถ้าเป็นศิษย์วัดสระเกศ ใกล้ชิดกับพระสงฆ์ถือว่าเป็นวันสูญเสีย เหมือนการจากไปของญาติผู้ใหญ่ทีเดียว เพราะเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งวันที่ 10 ส.ค.เป็นวันครบ 3 ปี ที่ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชมรณภาพ

สมเด็จพระพุฒาจารย์ สร้างสถิติไว้ให้ติดตาม คือทำหน้าที่เป็นประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จนถึงมรณภาพ นานเป็นประวัติศาสตร์ 10 ปีเต็ม คือช่วงแรกระหว่างวันที่ 13 ม.ค.-12 ก.ค. 2547 ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช (ม.10 พ.ร.บ.สงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535) และวันที่ 12 ก.ค. 2547 ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จนถึงมรณภาพ วันที่ 10 ส.ค. 2556 

การที่ทำหน้าที่สูงส่งนี้เพราะ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ประชวร มหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรปกครองคณะสงฆ์ ได้แต่งตั้งให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชได้มีพระบัญชาว่า “ทราบและเห็นชอบ” เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2547 ต่อมา การแต่งตั้งนั้นได้สิ้นสุดลงเพราะครบระยะเวลาที่กำหนด มหาเถรสมาคมจึงได้แต่งตั้ง คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประกอบด้วยพระราชาคณะรวม 7 รูป  โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) ในฐานะมีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ทำหน้าที่ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต่อไป

10 ส.ค. 2556 สมเด็จพระพุฒาจารย์จะมรณภาพ  แต่การคณะสงฆ์ยังอยู่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ก็ยังมีพระชนม์ชีพ ดังนั้นงานบริหารคณะสงฆ์ จึงมาขึ้นอยู่กับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) ผู้อาวุโสโดยสมณศักดิ์ จนกระทั่งวันที่ 24 ต.ค. 2556 สมเด็จพระสังฆราชพระองค์นั้นสิ้นพระชนม์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่ประกอบด้วยสมเด็จพระราชาคณะทั้ง 7 สิ้นสุดไปด้วย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จึงเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะที่อาวุโสโดยสมณศักดิ์ (ม.10 พ.ร.บ.สงฆ์ ที่อ้างแล้ว) เพียงองค์เดียว

เมื่อพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร วันที่ 16 ธ.ค. 2558 (หลังจากสิ้นพระชนม์ 2 ปีเศษ) เรียบร้อย มหาเถรสมาคมมีมติเอกฉันท์ในวันที่ 5 ม.ค. 2559 ให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แต่ถึงวันนี้ก็ไม่มีอะไร นอกจากวาทกรรมเสียดสี ย่ำยีพระสงฆ์ และตัวสมเด็จช่วง โดยกล่าวหาในคดีความเรื่องรถเบนซ์ ขม.99 หลังจากจุดพลุธรรมกายไม่ขึ้น

ส่วนนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็รับลูกคนกลุ่มน้อยที่กล่าวหา บอกว่าจะไม่เสนอให้โปรดเกล้าฯ  ถ้ายังมีปัญหา 

จึงคาดว่าสถิติที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช คงยาวนาน เพราะถึงวันนี้ ผ่านไป 3 ปี 10 เดือน หรือถ้านับวันที่ มส.เห็นชอบก็ผ่านมา 8 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับการสถาปนา แม้ว่าผู้กล่าวหาจะหมดมุข หมดเกมเล่น แต่นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีทั้งอำนาจและหน้าที่ยังไม่ยอมเสนอนามขึ้นเบื้องบน เพื่อโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 ทั้งๆ ที่ขั้นตอนตามกฎหมายเคลียร์หมดแล้ว หรือตำแหน่งนี้ ตั้งยากนักหรือ